วางแผนแล้วลุยเลย!! Game Plan, Ready?…Action!!!!

พอเรามีเป้าหมายชัดเจน รู้ว่าเราอยากได้อะไร? และ เพราะอะไรแล้ว ตอนนี้ถึงเวลา มาวางแผน-วางเกมส์ของเรา ว่าเราจะไปถึงเป้าหมายนั้นได้ไง

 

1. กำหนด”ขั้น”ของความสำเร็จ | Create milestone

planning step1

เริ่มวางว่า ระหว่างทางจะมี ขั้นที่วัดความคืบหน้าของเราเป็นช่วงๆ การวางMilestoneเพื่อเอามาคอยเช็คความคืบหน้า จะช่วยบอกว่าเราถึงไหนแล้ว อีกไกลไหม ทำไปเรื่อยๆมันอาจจะทำให้เราหลุด เสียเวลา หรือออกทะเลไปได้ แทนที่จะได้ใช้เวลาให้มีประสิทธิภาพก็ไปเสียกับอะไรที่เราไม่จำเป็น

*วิธีการ : * ลองมองภาพกว้างๆ วางเป้าหมายขั้นสูงสุงให้อยู่ไกลออกไปที่สุด และลองคิดว่า ระหว่างทางที่จะไปจะมีขั้นตอนสำคัญ(Critical Milestone)ที่ต้องสำเร็จและเกิดขึ้นบ้าง (1/3 หรือาจจะ1/2ทางก็ได้)

*ตัวอย่าง Milestone : * ทำ พอร์ตฟอลิโอ ออกมาเสร็จ 2 เวอชั่น (พัฒนาจากอันแรก), ทำโปรเจคไฮไลท์เสร็จ, ได้สกิลใหม่1-2-3-4 เป็นต้น

 

2. สิ่งที่ต้องทำ | Action plan

planning step2

พอมีขั้นสำคัญหลักๆแล้ว ที่นี้มีกิจกรรมอะไรบ้าง ที่เราต้องทำระหว่างแต่ละช่วงนั้น เพื่อให้ไปถึงขั้นต่างๆ(ACTION-TO DO)? และมีข้อมูลอะไรที่เราควรต้องเก็บเกี่ยวให้ได้มาบ้างไหม(GAIN)?

วิธีการ : หากเราต้องการผลลัพธ์นั้นๆในข้อ 1 ต้องทำอะไรบ้าง? ตอบคำถามและใช้ประเด็นเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ต้องทำ

ตัวอย่าง :

  • ทำงานดีดี ไม่ต้องเยอะ แต่คุณภาพคับจอ สร้างผลงานที่นำมาไฮไลท์ได้
  • รวมงานทำ พอร์ตฟอลิโอ เตรียมเรื่อง Self promotion มี Portfolio , Resume, Cover letter
  • Researchข้อมูล บริษัทที่อยากไปทำ เอามาปรับใช้กับ พอร์ตฟอลิโอ เพื่อเลือกออกแบบ พอร์ตฟอลิโอ ให้เหมาะกับจุดประสงค์และทิศทางของบริษัทนั้นๆ
  • Identify Key resources ปรึกษาข้อมูลจากใครได้บ้าง ขอคำแนะนำจากรุ่นพี่ได้ไหม อยากได้คำแนะนำ และข้อมูลเรื่องอะไร ใครให้ข้อมุลนั้นๆได้
  • พัฒนาตัวเอง ส่งเสริมจุดแข็ง
  • กำจัดจุดอ่อน

(ข้อ 1-2 สามารถรวมกันได้ แค่ข้อ 2 คือ กิจกรรมที่ทำให้ไปเกิดข้อ 1)

 

3. จัดเวลา | Plan your time

planning step3

หลังจากกำหนด Milestone มาช่วยเป็น Checkpoint ให้เราได้แล้ว เราก็ควรกำหนดเวลาเอาไว้ ว่าแต่ละอันควรจะเสร็จเมื่อไหร่ (Deadline) มีระยะเวลาทำเท่าไหร่ (Duration)การกำหนดเวลานั้นได้เงื่อนไขมาจากตัวเรา และdeadlineของสถานที่ที่จะสมัคร ซึ่งต้องวางให้เข้ากับสถานการณ์ของเรา

ลองจัดเป็น Timeline คร่าวๆ ให้เหมาะกับช่วงเวลาของเรา ถ้าระยะเวลาสั้นจะสามารถลงรายละเอียดได้เยอะ แต่ถ้าเป็นการวางแผนข้ามปีก็จะหยาบกว่าและไม่ต้องลงรายละเอียดมาก

ตัวอย่างตารางการวางแผน

Job hunt planning

ความสำคัญของการบริหารเวลา และวางแผนล่วงหน้า คือ ทำให้เราเห็นภาพรวมว่าเรามีเวลาในการทำงานแต่ละอย่างเท่าไหร่ และเมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นเพื่อให้เป็นไปตามกำหนดการณ์ และสุดท้ายคือทำให้ทำให้เสร็จ (Execution) สำเร็จตามเวลา การวางแผนดีดี และคอยสำรวจความคืบหน้ายังช่วยทำให้เราทำงานเสร็จและทำงานเร็วขึ้นอีกด้วยการวางแผนอาจจะเหมือนยุ่งยาก แต่จริงๆนำพาความสะดวกมาให้เยอะมาก ความสะดวกที่เกิดจากการวางแผน คือ เราไม่ต้องเสียพลังงานเยอะในระยะยาว เพราะเราก็แค่ทำตามสิ่งที่วางไว้ แล้วเอาพลังไปลงกับการทำงาน ไม่ต้องมานั่งกังวลบ่อยๆเพราะเราคิดไว้หมดแล้ว และถ้าเกิดต้องปรับแผน เราก็สามารถปรับมันได้ง่าย โดยที่ยังเห็นภาพรวมทั้งหมด

รูปแบบการวางแผนจัดการเวลา

  • ระยะยาว : เหมาะกับการดูภาพรวมและแพลนเวลาว่าเรามีพอไหม
  • ระยะสั้น : เป็นส่วนย่อยลงมาจากระยะยาว การสร้างเป้ารายวัน หรือรายอาทิตย์ ที่เป็นเป้าหมายระยะสั้นเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการทำตาม และมีกำลังใจกว่า เดือนนึงมาดูทีแล้วพอทำไม่ได้ มันช่างเสียกำลังใจ ถ้าส่วนตัวจอมเอง จอมชอบมากในการทำเช็คลิส ไม่ได้ชอบตอนเห็นว่ามันเยอะนะ แต่ตอนที่ขีดทุกอย่างทิ้ง จอมใช้ปากกาหมึกดำขีด พอทำเสร็จ ทั้งหน้าเป็นสีดำ โอยยยย สะใจ ทำเสร็จแล้วววววว อยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ่อยๆ ก็ทำเป้าหมายให้สั้นลง ทำทีละวัน ช่วยได้

ตัวอย่าง เวลาจอมทำตารางระยะสั้น จะเป็นเช็คลิสรายวัน หรือรายTask

สิ่งควรระวัง !

  • วางแผนเพื่อให้ลงมือทำเลย วางแผนไว้แล้วไม่ทำ ไม่มีประโยชน์อะไรเสียเวลาเปล่าๆ
  • วางแผนได้แต่อย่าติดอยู่กับแผน แผนมีไว้ให้เราปรับระหว่างทางได้สะดวก แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือเป้าหมายที่เราจะไปถึง

ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว มาลงมือทำกัน !

* สำหรับใครที่อยากได้คน มาช่วยดู ช่วยคอมเม้นท์ Portfolio อย่างละเอียด และอยากรู้ว่า วิธี ทำให้ Portfolio ของตัวเองเจ๋งขึ้นไปอีกขั้นต้องทำอย่างไร ตอนนี้ทาง DreamAction รีวิวให้ฟรี เดือนละ 1 คน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ คลิกเลย Portfolio Review