เป็นเซียนกราฟิกและวาดภาพภายใน 10 อาทิตย์ ทำยังไง

ถ้าเรามีเวลาทั้งหมด 10 อาทิตย์ เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในตัวเราเอง ให้เก่งเรื่องการออกแบบกราฟิก และวาดภาพได้อย่างไร? วันนี้เราจะมาแจกแจงระบบเป็นขั้นๆ 5 ขั้นใหญ่ และดูว่าแต่ละขั้นมีอะไรที่ต้องทำ (Action Plan / Tasks) เพื่อให้เราเก่งขึ้น จนก้าวข้ามตัวเราวันนี้ ไปเป็นเซียนในวันหน้าได้

เนื่องจากรูปแบบการฝึกในครั้งนี้ จะมีสองศาสตร์ผสมกัน นั่นคือ การวาดภาพ (Illustration) และการออกแบบกราฟิก (Graphic Design) ที่มีความเหมือน เหลื่อม ซ้อนทับกันอยู่ ทักษะทั้งสองศาสตร์นี้สามารถส่งเสริมกันได้อย่างดี ระบบที่จะมานำเสนอ ก็จะเป็นรูปแบบที่ฝึกสองส่วนนี้ไปพร้อมๆกัน หากใครสนใจอยากจะฝึกด้วยเดียวเจาะๆ ก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้ลองศึกษาขั้นตอน และทำความเข้าใจทั้งงานออกแบบและ งานวาด เพราะถ้าเราเข้าใจทั้งสองอย่าง มันจะช่วยเพิ่มความลึก ความน่าสนใจของงาน และแรงบันดาลใจจากอีกฝั่งสามารถนำกลับมาส่งเสริมกันได้อย่างดี

ไปเริ่มกันเลย

Illustration Program

IL.STEP 01 : เริ่มจากค้นหาตัวเองก่อนว่าชอบงานแนวไหน ยังไม่ต้องลงมือทำก็ได้

เริ่มแรกเนี่ยเราจะต้องค้นหาก่อนว่าเราเองนั้นชอบงานนักวาดคนไหน ลองหาไปเรื่อยๆก่อนยังไม่ต้องลงมือทำเพื่อจะได้รู้ว่าเราเนี่ยเก่งทางด้านไหนแล้วอยากทำอะไรก่อนก่อนที่จะลงมือทำสิ่งต่างๆมันก็จะต้องมี Direction ประมาณหนึ่งว่าเราอยากไปทางไหนหรือว่าอยากทำอะไรก่อนเนื่องจากที่เราจะไปนั้นมันก็เป็นอะไรที่เราจะต้องตัดสินใจว่าเราอยากจะไปเป็นแบบนี้เป็นนักวาด,Concept Artist, character designer, สตอรี่บอร์ด artists  ยังไม่ต้องลงมือทำเพราะว่าช่วงแรกเนี่ยมันเป็นการค้นหาตัวเองมันเหมือนกับเราหาหนทางที่จะไปในแนวทางที่เราต้องการเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่เรารีบไปลงมือทำเลยก็เหมือนกับการที่เราเดินทางโดยไม่รู้หนทางที่จะไปแน่ชัด เมื่อเรารู้ว่าเราต้องการอะไรแล้วค่อยทำก็ยังไม่สาย

ส่วนวิธีการก็ลองเปิด Pinterest ดูก่อนลอง browse งานเยอะๆ เพื่อให้รู้ว่าจริงๆแล้วแนวไหนที่เราอยากจะทำอย่างที่บอกเซฟงานที่อยากทำมาเยอะๆแล้วจัดกลุ่มงานเป็นกลุ่มๆ

บางทีที่การที่เราจะทำงานให้ดีนั้นมันก็อาจจะไม่เกี่ยวกับการที่เราหมกมุ่นอยู่กับวงการศิลปะอย่างเดียวบางทีในการที่เราจะทำงานให้ได้ดีนั้นเราอาจจะต้องสนใจเรื่องอื่นบ้างเช่นแฟชั่น สถาปัตยกรรมหรือวงการอื่นๆเพราะว่าการที่เราสนใจวงการอื่นๆนั้นมันจะทำให้เรามีทรัพยากรในการที่เราจะดึงเอามาใช้ได้มากกว่าคนอื่นที่ไม่ได้สนใจวงการอื่นเลยสนใจแต่งานวาดอย่างเดียว

Action List

  • ออกไปเดินที่ที่ไม่เคยไป ดูหนังที่ไม่เคยดู อ่านหนังสือที่ไม่เคยอ่านเพื่อเพิ่ม Library ในหัว

โดยที่สิ่งที่เราทำนั้นไม่จำเป็นจะต้องเป็นสิ่งที่แปลกมากหรือสิ่งที่เราไม่ได้แค่ทำสิ่งที่เป็นปกติในชีวิตประจำวันแต่แตกต่างออกไปจากชีวิตจำวันบ้างเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับตัวเองเท่านั้นก็น่าจะพอแล้วค่ะ

  • สังเกตสังเกตสังเกต ลองสังเกตว่างานดีๆมันมีจุดเหมือนกันอย่างไรและจุดแตกต่างกันอย่างไร เขาวางองค์ประกอบยังไงใช้สียังไง ใช้เส้นยังไง

IL.STEP 02 : ดูงานเยอะๆ เสพย์เยอะๆ

หลังจากที่เรารู้ว่าเราต้องการอะไรแล้วเราก็ยังต้อง ฝึกวิเคราะห์ว่างานนั้นสวยได้ยังไง มีจุดเด่นอะไร อะไรที่ทำให้งานนั้นเตะตาแล้วเราค่อยมาคัดกรองส่วนที่เราสามารถใช้ได้เหมือนกับเครื่องคั้นผลไม้แยกกากที่แยกเอาแต่สิ่งที่เป็นแก่นออกมา เมื่อเราได้กลุ่มงานของงานที่เราอยากทำแล้วให้เราลองใช้เมาส์ปากกาวงในจุดที่คิดว่าเราชอบในภาพนั้นแล้วจดโน๊ตแล้วแยกแยะเป็นกลุ่มๆเอาไว้อีกทีนึงว่างานลักษณะนี้เนี่ยเป็นงานแนวไหนใช้เทคนิคอะไรอย่างไรแล้วจะพบว่างานที่เราชอบมันจะเกาะๆกลุ่มกัน ให้เราเลือกเทคนิคบางอย่างมาใช้ในงานของเราได้เลย โดยการทำวิธีด้านล่าง

Action List

  • เปิด deviantart,pinterest instagram
  • จากนั้น save งานมา
  • ใช้เมาส์ปากกาเขียนในบริเวณที่เราชอบหรือมีส่วนโน็ตเป็นพิเศษ

IL.STEP 03 : จากนั้นก็ลองวาดตามแบบดูก่อน

เมื่อเรามาถึงขั้นตอนนี้เราจะดูดเทคนิคของรูปโดยการวาดตามแบบดูก่อนสักครั้งหนึ่งเมื่อเราวาดตามแบบสักครั้งนึงได้แล้วเนี่ยเราจะพบว่ามันง่ายมากที่เราจะทำตามใครสักคนแล้วเทคนิคนั้นเหมือนกันเป๊ะแต่วิธีการนี้มันไม่ได้ทำให้เราเป็นตัวของตัวเองเพราะฉะนั้นเนี่ยการที่เราจะไปต่อได้เราจะต้องมีการประยุกต์ใช้นิดนึงไม่ใช่ว่าเอาแต่ก็อปปี้อย่างเดียวมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เราจะไปต่อได้มันต้องเป็นตัวของตัวเองด้วยมันไม่ได้มีแต่การทำตามคนอื่นอย่างเดียวไม่อย่างนั้นแล้วก็เป็นได้แค่ Copy cat

Action List

  • เซฟรูปที่เราอยากจะวาดตามมา
  • ลองดราฟตามแบบสักรอบนึง
  • เสร็จแล้วทำอีกหลายๆรูปแล้วลองว่าตามเองโดยไม่ต้องดราฟ

IL.STEP 04 : พอวาดตามแบบได้คล่องแล้ว เริ่มมีแรงบันดาลใจ ค่อยฝึกพื้นฐานควบคู่กันไป หรือจะทำ 3 ก่อนค่อย 4 ก็ได้

ที่บอกให้วาดตามแบบไปก่อนนั้นเพราะว่าเราจะได้มีกำลังใจในการวาดต่อไปเพราะว่าการวาดตามแบบมันง่ายแต่ถ้าใครอยากฝึกพื้นฐานก่อนก็ย่อมได้เพราะว่าการฝึกศิลปะนั้นมันไม่มีข้อจำกัดตายตัวว่าจะต้องฝึกอะไรก่อนอะไรหลังมันสามารถฝึกสับกันได้แต่ถ้าใครสามารถฝึกเรียนตามขั้นตอนได้แบบโรงเรียนศิลปะก็ทำเลยค่ะถ้าคิดว่ามีวินัยพอ นะ เริ่มต้นทำอย่างช้าๆก่อนแล้วค่อยๆฝึกเป็นขั้นเป็นตอนเริ่มเร็วขึ้นๆวาดให้แม่นขึ้นฝึกให้หลากหลายมากขึ้น แต่นอกจากว่าตามแบบแล้วเราจะต้องทำรีมาสเตอร์ควบคู่กันไปด้วยเพื่อที่จะให้เกิดสไตล์ที่ชัดเจนและสกัดเอาส่วนที่สำคัญมาใช้ในการทำงานของเรา

Action List

  • ลองวาดภาพพื้นฐานหุ่นปูนปั้นหรือ Still Life หรือว่าตาม sculpture
  • ฝึกรีมาสเตอร์งานของ artist ดังๆ โดยการที่เอางานของ artist ดังๆ มาทำให้เป็นรูปใหม่โดยการใส่ลายเส้นของเราเข้าไปหรือไม่ก็วาดลายเส้นของมาสเตอร์ให้เป็นคอมโพสของเราหรือการจัดองค์ประกอบของเรา

IL.STEP 05 : หาที่เรียน

ขั้นตอนนี้เนี่ยไม่ยากก็คือหาที่เรียน แต่ว่าวิธีหาที่เรียนก็คือเราจะต้องรู้ก่อนว่าจุดมุ่งหมายของเราในการเรียนนั้นคืออะไรและอยากไปทางไหน มันเหมือนกับเรา Set เป้าหมายว่าเราจะไปญี่ปุ่นเราก็ต้องหาตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นไม่ใช่หาตั๋วเครื่องบินไปภูเก็ตและเราก็หาว่าโรงเรียนไหนที่ตอบโจทย์เราที่สุดที่จะทำให้เรานั้นไปถึงจุดหมายได้และตอบโจทย์ในการดำเนินชีวิตของเราด้วยเช่นเราอาจจะอยู่ต่างจังหวัดอยู่บ้านไกลมากทำให้เราไม่สามารถที่จะลงเรียนตัวต่อตัว หรือลงเรียนกลุ่มได้

Action List

  • List ว่าเราอยากได้อะไรมีข้อจำกัดอะไร
  • หาที่เรียนตามนั้น

Design Program

D.STEP 01 : ค้นหา จากตัวเรา สู่ภายนอก | Explore In/Out

ระยะเวลา : 1-2 อาทิตย์

ขั้นตอนแรกเป็นเรื่องของการค้นหา สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ สิ่งที่เราและโลกมี มันคือ การเข้าใจภายในตัวเราเอง และเข้าใจโอกาสภายนอก เพื่อให้เรารู้ว่าเราจะเดินไปไหนต่อ

D 1.1 Find your strengths & Weakness หาจุดแข็ง จุดอ่อน ของตัวเอง

นอกจากการรู้จักตัวเองในแบบของงานวาด ที่โฟกัสสิ่งที่เราสนใจแล้ว ในส่วนของงานออกแบบ เราต้องค้นหา จุดแข็ง และ จุดอ่อนของตัวเราเองด้วย

ลองดูตัวอย่างคุณสมบัติข้างล่างนี้ว่า เรามีสิ่งเหล่านี้ไหม? มีมากมีน้อย?

ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเรามีสิ่งเหล่านี้ไหม ให้ลองทดลองทำงานหลายๆแบบ

ลองใช้วิธีการเขียน Mindmap เพื่อดึงและระดมเอาความคิดของเราออกมาทั้งหมด (Brainstorming) แบบไม่ต้องเลือก หรือตัดสิน เราจะยังไม่ตัดสินจนกว่าจะเข้าขั้นตอนต่อไป

D 1.2 Try out different thing ลองเยอะ

ให้โอกาสตัวเองทดลองหลายๆอย่าง ค้นหาสิ่งรอบตัวเยอะๆ

ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเราชอบอะไร ให้ศึกษาว่ามันมีโอกาสแบบไหนบ้าง ทำได้โดยตัวอย่างการลงมือทำต่อไปนี้

Action List :

  • ลองทำงานแบบนั้นดู
  • ลองอ่าน ลองดูงานตัวอย่าง จากทาง Internet
  • ดูงานตัวอย่างจากการไปเดินพิพิธภัณฑ์ (ที่เป็นวิธีที่ดีมากมาก แม้มักจะเป็นตัวเลือกที่คนชอบไม่ทำ เพราะต้องเดินทาง แต่วิธีนี้ทำให้เราสัมผัสประสบการณ์จริง แบบหลากมิติ และได้บรรยากาศรวมๆด้วย ดีกว่านั่งดูในมือถือ หรือ หน้าจอคอมพิวเตอร์เยอะ)

ทั้งหมดนี้ ให้โอกาสทำทุกอย่าง อย่างละนิด อย่างละหน่อย จำกัดเวลาให้ไม่ต้องเยอะมาก แต่สิ่งที่สำคัญคือ ทุกครั้งเราต้องคอยสังเกตตัวเองเสมอ และใช้คำตัดสิน จากความรู้สึกและประสบการณ์ตัวเอง ความเห็นของเพื่อนที่ไปพิพิธภัณฑ์เป็นเพื่อนเรา ไม่ได้เป็นความคิดเรา เราต้องคิดแบบของเราเอง ถามใจตัวเอง

D 1.3 Organize your items จัดระเบียบข้อมูล

ลองลิส จดสิ่งเหล่านี้ออกมา

1.สิ่งที่เราชอบ

2.สิ่งที่เราสนใจ ไม่ว่าจะเพราะเราชอบ หรือ ว่ากำลังเป็นที่นิยม

3.สิ่งที่ถนัด และ

4.สิ่งที่ไม่ถนัด

ในขั้นต่อไป เราจะมาเลือก

D.STEP 02 : จัดลำดับสิ่งที่จะพัฒนาก่อน | Prioritize your targeted skill

ระยะเวลา : 2-3 วัน, ภายในอาทิตย์ที่ 2

เรามีเวลาพัฒนาที่จำกัด แม้เราจะอยากเก่งไปซะหมดทุกอย่าง แต่ความจริงคือ เราสามารถทำได้เท่าที่เวลานี้มีเท่านั้น เราจึงต้องใช้เวลานี้ ปลดล็อค ฝึกฝน พัฒนา ในส่วนที่สำคัญ หรือจำเป็นที่สุดก่อน แล้วค่อยๆเติบโตไปในส่วนอื่นๆที่ความสำคัญรองลงมา หรือว่าจำเป็นต้องใช้พื้นฐานใน 10 อาทิตย์นี้เพื่อต่อยอดต่อไป

Action List :

เลือกสิ่งที่สำคัญก่อนจากขั้นตอนแรก เรียงลำดับความสำคัญในการพัฒนา โดยให้ทำการHighlight แล้วเลือก จนเหลือแค่ 4 อย่าง

  • สิ่งที่ทั้งชอบ+ไม่ถนัด+สนใจ 1 อย่าง
  • สิ่งที่ทั้งชอบ+ถนัด+สนใจ 1 อย่าง
  • สิ่งที่ทั้งถนัด+สนใจ ก่อน 1 อย่าง
  • สิ่งที่ทั้งไม่ถนัด+สนใจ 1 อย่าง

ที่ให้เลือกสิ่งที่สนใจ ก่อนสิ่งที่ชอบในช่วงเวลา 10 อาทิตย์นี้เพราะว่า เราควรจะทดลองให้โอกาสตัวเองในการฝึกฝน สิ่งที่เราสนใจ เมื่อวันนี้มีโอกาสก็ทดลองทำก่อน แล้ว หลังจากนี้จะต่อเติมสิ่งที่ชอบเข้ามาก็ย่อมได้

D.STEP 03 : ศึกษา สังเกต | Learn & Observe

ระยะเวลา : 1-8 อาทิตย์, เริ่มอาทิตย์ที่ 3 เน้นหนัก 100% เป็นเวลา 1 อาทิตย์ จากนั้นให้ใช้เป็นส่วนรองประมาณ 10-20% จากอาทิตย์ที่ 4-10

ช่วงเวลาแห่งการค้นหาความรู้ และซึมซาบข้อมูลเหล่านั้น เพื่อพัฒนาในประเด็นต่างๆให้ดียิ่งขึ้ย คำแนะนำในการศึกษาคือ ให้เรียนรู้จากการปฎิบัติงานที่ดีที่สุด หรือที่เรียกว่า Best Practice คือ ให้ศึกษางานที่เป็นตัวอย่างที่ดี ที่ประสบความสำเร็จ ว่าศึกษาว่าทำไมถึงดี โดยเน้นการเข้าใจถึงกระบวนการสร้าง แต่อย่าเอาแต่ดูว่าตอนจบมันหน้าตาสวยยังไง

Action List :

  • Research : ค้นคว้าหาข้อมูล
  • Learn : ไปลงเรียนคอร์สเพิ่ม เพื่อให้มีคนที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว มาสอนหรือแนะนำเราให้ตรงประเด็นที่สำคัญที่เราควรต้องฝึกก่อน จะช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาไปได้อีกเยอะ คือ ง่ายๆมีคนเตรียมหลักสูตรให้ แล้วเราลงมือศึกษา และฝึกฝนต่อจากตรงนั้น ยิ่งเริ่มเร็ว ก็ยิ่งทำให้เราพัฒนาไปได้เร็ว ถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกคอร์สที่สามารถติดต่อ ส่งคำถามไปถามผู้สอนได้ด้วย เพราะจะทำให้ช่วยพัฒนาตัวเองให้ตรงจุด (แต่เราต้องถามคำถาม เพราะนั่นคือการใช้ประโยชน์จากคนมีประสบการณ์ที่เราไม่มี มันจะคุ้มมาก)
  • Observe / Absorb / Think : ซึมซาบ ดูแล้วคิดตาม คิดแย้ง ตั้งคำถาม วิเคราะห์
  • Keep’em all up : ที่ว่ามา สามข้อ ทำวนไปเรื่อยๆ อย่าหยุดค้นคว้า อย่าหยุดคิด วิชาเหล่านี้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง คนเก่งคือคนที่ไม่เคยหยุดเรียนรู้

D.STEP 04 :  ฝึก จ้ะ ฝึก | Practice Practice Practice

ระยะเวลา : 6 อาทิตย์

สิ่งที่สำคัญที่ทำให้นักออกแบบเก่ง ทำงานได้ดี สร้างงานดีดีออกมา ส่วนหนึ่งมาจากประสบการณ์ในการฝึกฝนการใช้ความคิด เพราะกระบวนความคิดสำคัญมาก การออกแบบไม่ใช่งานทำซ้ำๆ ทำครั้งเดียวดี แล้วครั้งต่อมาเราก็มาลอกงานตัวเองที่เคยทำแล้วดี เอามาทำใหม่ แบบนี้ไม่ใช่งานที่ดี ความท้าทายที่เป็นความเจ๋งของงานออกแบบคือ ความเฉพาะตัวท่ีมันเกิดใหม่ทุกครั้ง แล้วทำให้งานใหม่ที่เราสร้างมันดีขึ้น

จะทำงานดีดีได้ มันก็มาจากกระบวนความคิด แรกๆเริ่มออกแบบใหม่ๆ เราจะไม่ชินกับกระบวนการของมัน แต่เมื่อทำบ่อยๆ เห็นมาก เจอปัญหามากๆ เจอโอกาส เจอไอเดียมากมาก เราจะพัฒนามากขึ้น

ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอแม้ว่าจะผ่าน 10 อาทิตย์นี้ไปก็คือ การฝึกฝน และที่แน่ๆ 10 อาทิตย์นี้ ต้องให้เวลาในการฝึกอย่างจริงๆจัง แล้วมาดูกันว่าเราจะดึงสิ่งที่เรามีในตัวเราออกมาได้แค่ไหน

ตัวอย่างวิธีการฝึกฝนเบื้องต้น

Action List :

  • Mock-up projects : สร้างโปรเจ็กต์ขึ้นมาเอง เพื่อฝึกสมอง ลงมือทำ ทำให้เป็นจริงจัง
  • My version of that project ! : ดูตัวอย่างโปรเจ็กต์อื่นๆ แล้วลองคิดว่า ถ้าเป็นเรา เราจะทำยังไง ให้เวลาตัวเองทำเร็วๆ 3 ชั่วโมง ทำเป็น Sketch Design
  • Take Classes with exercises & reviewer : เรียนคอร์สเพิ่ม หาคอร์สที่ให้เราทำการบ้าน และมีคนตรวจงานพร้อมคอมเม้นต์ เพราะถ้าเราแค่ทำงานของเราไปวันวัน ไม่มีคนแนะนำ เราก็จะไม่รู้มุมมองใหม่ๆ ที่เราอาจจะคิดไม่ถึง การฝึกออกแบบใหม่ๆ สิ่งที่ Baby Designer ขาดตอนแรกๆแน่ๆเลยคือ มุมมองในการวิจารณ์ และถอดแบบงานออกแบบ หรือ เรียกสั้นๆว่า “การอ่านแบบ” การที่เรียนคอร์สที่มีคนแนะนำ จะช่วยให้เราเห็นวิธีการอ่านงาน และทำให้เราสร้างงานที่ดีได้ยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
  • Be a helper : การไปขอเป็นลูกมือคนที่มีประสบการณ์ เพื่อจะได้ศึกษาวิธีการทำงานจากเค้า เป็นอีกวิธีที่เร่งความเร็วในการพัฒนาฝีมือมากๆ

D.STEP 05 : ขวนขวายหาคำวิจารณ์ และพัฒนาต่อ | Seek Critics, then improve!

ระยะเวลา : 1 อาทิตย์

หาคอมเมนต์จากคนอื่น ทั้งคนที่จะใช้งานเราจริงๆ(ลูกค้านั่นเอง) ไปจนนักออกแบบคนอื่นๆที่มีประสบการณ์ แล้วลองเอาคำวิจารณ์เหล่านั้น กลับมาไตร่ตรอง แล้วพัฒนางานตัวเองให้ก้าวข้ามกำแพงเดิมไปอีกขั้น

ไม่มีทางที่แบบแรกที่ทำ มันจะดีที่สุด หมั่นพัฒนาเสมอ หา Mentors ที่จะแนะนำในการฝึกแต่ละอย่าง ในกรณีที่ไปเรียนคอร์สเพิ่ม ใช้โอกาสในการถามผู้สอนเยอะๆ

Tips ที่เด็ดที่สุด คือ : ถ้าขอคำแนะนำไป แล้วได้รับคำชมเยอะ ให้ถามว่าดีอย่างไรให้ละเอียด ดีใจได้ แต่อย่าหยุดตัวเองแค่นั้นเด็ดขาด แต่ให้เปลี่ยนคนที่เราถามใหม่ แล้วไปหาคนใหม่เพิ่ม ถามเค้าอีก หนนี้ ให้เอาคนที่มีความรู้ และสามารถให้คำวิจารณ์ทางลบกับเราได้ด้วย (คือคนที่ให้ใจเป็นกลาง พูดตรง และมีความรู้จริงๆ ว่างั้น) เพราะว่าการที่เราจะพัฒนาตัวเอง ถ้าเราเห็นแต่ข้อดี เราจะไม่มีทางหลุดไปจากวังวนเดิมๆของตัวเราเองได้ ไม่มีงานใดที่ Perfect ที่สุด

ทิ้งท้าย : เราต้องเป็น “เซียน เหนือ เซียน”

หลังจากผ่านข้อนี้ไป เราก็จะครบ 10 อาทิตย์ในการพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวสู่ความเป็นเซียน

แต่ทั้งนี้ เราอาจจะไม่ได้เซียนระดับไปแข่งกับคนประสบการณ์ 10 ปีได้ แต่ถ้าใน 10 อาทิตย์นี้เราทำงาน ฝึกหนักทุกขั้น เต็มที่ทุกตอน มีคนถามก็เตรียมคำถามที่มันช่วยเรา และดูดความรู้คนที่เป็น mentors ให้เราได้มากที่สุด แบบนั้นแล้ว…เราก็ควรจะมีพื้นฐานความรู้ที่เพียงพอที่จะไปพัฒนาฝึกฝนต่อ

ทั้งนี้ หลังจาก 10 อาทิตย์นี้ อย่าได้ ลด ละ เลิกในการฝึกฝน หรือ ค้นหาข้อมูล และคอยสังเกตสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ การออกแบบ การวาดภาพ เป็นทักษะที่ยิ่งลับยิ่งคม

เพื่อหนทางแห่งความเซียน ไฟท์วนไปค่ะ คุณ นั่นแหละ วิถีของเซียนเหนือเซียน

ถ้าสนใจฝึกและเรียนเทคนิคสำคัญ และพื้นฐานในงานออกแบบ งานวาดไปพร้อมๆกันใน 10 อาทิตย์ เพื่อให้การฝึกฝนเกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด มาลงคอร์ส “เรียนลัดตัดตอนครบวงจร Graphic & illust” ที่เพียง 10 สัปดาห์ของการเรียนการสอนออนไลน์ จะทำให้คุณทำงานออกแบบ และงานวาดได้ดีขึ้น ไปจนสามารถวิเคราะห์อ่านงานได้ดีขึ้น ทำให้ปลดล๊อคศักยภาพของคุณ และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้อย่างไม่สิ้นสุด สนใจสมัครคอร์สนี้ ไปดู รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย