ทำไมยุคนี้…เราต้องเรียน Design และ Illustration?

ความรู้ในการออกแบบกราฟิก และ การวาดภาพประกอบ เป็นสิ่งที่สำคัญต่อโลกยุคนี้ยังไง?

ทำไมเราควรจะเริ่มสนใจ?

ข้อดีที่จะนำมาเล่าให้ฟังวันนี้ มี 11 ข้อใหญ่ ที่ประโยชน์จากงานออกแบบ และ งานวาด มันจะทำให้เราอยู่รอด และเติบโตไปพร้อมๆกับโลกที่หมุนไวซะเหลือเกิน

1. เพราะยุคนี้เป็นยุคของ Lean Startup

เราได้ยินคำว่า Startup กันเยอะ เพราะเป็นปรากฏการณ์ของโลกยุคนี้เลยทีเดียว ที่หลายคนหันมาเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง แต่ในการโตแบบ Lean คือ การใช้ต้นทุนให้น้อยที่สุด เพื่อให้โตเร็วในขั้นต่างๆได้มากที่สุดนั้น การออกแบบ เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เลย ที่ทำให้ธุรกิจเหล่านั้นพัฒนา

หากเราลองนำเรื่องดีไซน์ไปจับคู่กับธุรกิจแล้ว การใช้การออกแบบช่วย สามารถช่วยลดต้นทุนทางการเงินบางส่วนได้ เนื่องจากใช้ต้นทุนทางความคิดสร้างสรรค์มาช่วยในการหาทางออก พลิกแพลง มีคำพูดในวงการธุรกิจที่ว่า ถ้าคุณมีเงินเยอะๆ อาจจะไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากก็ได้ แต่ถ้ามีเงินลงทุนน้อย ก็ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ให้มากพอ ว่าจะใช้เงินทุนที่มีอยู่อย่างไรให้งอกเงย (แต่แน่นอน ถ้ามีทั้งสองอย่าง เยี่ยมเลยจ้าาาา)

ต้นทุนทางการเงินต่ำ แต่เราล้ำด้วยพลังทางปัญญา

ถึงต้นทุนทางการเงินต้ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่ได้แปลว่าทางตัน การมีความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการวาด การออกแบบติดตัว จัดว่าเป็นต้นทุนทางปัญญาที่มีมูลค่าไม่แพ้กัน ถ้าเราเอาไปใช้ให้เป็น

การออกแบบกราฟิกที่ดีที่ตอบโจทย์ และสร้าง Branding เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญ ของการสร้าง Lean Stratup เช่นกัน ที่ทำหน้าที่ในส่วนของการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี น่าจดจำ น่าเชื่อถือให้กับสินค้า ผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจต่างๆ โดยที่ไม่ได้ต้องเป็นบริษัทร้อยล้าน ก็ดูดีมีชาติตระกูล เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายได้ ถ้าเราออกแบบให้เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ

อย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมายที่เริ่มต้นจากการเป็น Startup ไม่มีใครที่ขาดส่วนของการนำเสนอ Brand ไปสักคน ส่วนเหล่านั้น ใช้งานกราฟิกเป็นส่วนประกอบด้วย

2. งานวาด งานออกแบบ สามารถนำไปต่อยอดได้หลายอย่าง | Unlimited Growth

งานวาดภาพประกอบ สามารถนำไปต่อยอด ทำผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาดบนสินค้าต่างๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าใช้มากยิ่งขึ้น แล้วก็ดูแล้วมีราคา น่าซื้อหามากขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปทำผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีกด้วย เช่น เสื้อยืด หมอน ที่รองแก้ว อื่นๆ

งานออกแบบนั้นสามารถเอาไปใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมๆ ให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่น่าสนใจขึ้น แต่สามารถตอบโจทย์ที่กว้างขึ้น เข้าถึงกลุ่มที่หลากหลายมากขึ้น

ยกตัวอย่าง กระติกน้ำพกพา (Tumbler) ที่ปกติก็แค่ไว้ทานน้ำ แต่ถ้ามันจะทำได้มากกว่านั้น จะทำอะไรดี? ลองนึกถึงเวลาเข้าฟิตเนสไปออกกำลัง ปกติเราถืออะไรในมือบ้าง กุญแจ กับ กระติกน้ำ ? เออ ถ้าเราเอามันมารวมกันล่ะ มันจะเป็นยังไง? จากคนที่แค่ออกแบบแก้วน้ำ พอเติมประเด็น เติมคำถาม มันก็ยิ่งต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมๆ ให้ไปได้ไกลมากขึ้นกว่าเดิมอีก แบบนี้เป็นต้น

หรือ การที่เรามีความสามารถในการออกแบบสายหนึ่ง เช่น สายกราฟิก ถนัดทำเรื่องการจัด Layout ในงานMagazine เนื่องจากเรามีพื้นฐานการจัดองค์ประกอบ เพื่อการสื่อสารให้คนกลุ่มใหญ่เข้าใจ การจะต่อยอดไปในสายออกแบบ Web Design ก็ใช้ความรู้การจัดองค์ประกอบเช่นกัน แต่เปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน(ที่เราต้องศึกษาเพิ่ม) และ ถ้าเรามีความรู้ความถนัดในเรื่องของการออกแบบโลโก้ ร่วมด้วย เมื่อนำมาประกอบกัน อาจจะช่วยให้เราต่อยอดไปทำการออกแบบส่วน Corporate Identity / Branding ได้ด้วย ข้อจำกัดมันน้อย โอกาสมันเยอะ เริ่มจากหนึ่งจุด เบสิคพื้นฐานให้แม่น พอถึงเวลาค่อยๆต่อยอดไปให้มั่นที่ละส่วน ทำให้เราโตไปได้อีกไกล

3.งานวาด งานออกแบบเข้าถึงผู้คนได้ง่ายกว่า | Approachable

ลองคิดดูว่าคุณทำสินค้าขึ้นมาชนิดหนึ่ง แล้วคุณต้องการโปรโมท การวาดรูปเพื่อโปรโมทสินค้านั้นๆ ทำให้เข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก เพราะคนไทยเติบโตมากับการ์ตูน และเข้าใจ อีกทั้งยังมีนิสัยรักสนุก ชอบอะไรที่ทำให้เขามีความสุขอีกด้วย เพราะฉะนั้นการทำภาพเป็นการ์ตูน หรือภาพวาด จะทำให้คนนั้นรู้สึกมีความเกี่ยวข้อง หรือผูกพัน กับผลิตภัณฑ์ของคุณมากกว่าการใช้ภาพถ่าย เพราะสามารถสร้างให้เกิดคาแรคเตอร์ได้หลากหลาย และทำให้คนรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับคาแรคเตอร์นั้นๆได้อีกด้วย

นอกจากนี้อุตสาหกรรมเกี่ยวกับคาแรคเตอร์ เป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามอง นอกจากนี้ ยังเป็นอุตสาหกรรมที่ขยายไประดับอินเตอร์ได้อีกด้วยเพราะมันเป็นอะไรที่เป็นสากล

ส่วนการออกแบบ หากโจทย์ที่ได้รับ คือเป้าหมายให้คนเข้าใจงานนั้นได้มากขึ้น แน่นอน งานออกแบบจะสำเร็จก็ต่อเมื่อเราตอบโจทย์นั้นๆที่ได้รับ นักออกแบบก็จะหาทางพัฒนางานจนเข้าใจง่ายต่อกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ ซึ่งประโยชน์อันนี้เป็นประโยชน์ด้านการสื่อสาร และการเชื่อมโยงสินค้ากับคน ที่จัดว่าสำคัญในโลกทุกวันนี้มาก

4.งานวาดทำง่าย ต้นทุนทางการเงินต่ำ | Lower Cost (in Cash)

งานวาดนั้น ถ้าคุณศึกษาและฝึกหัดแค่เพียงครั้งเดียว แต่เป็นระยะเวลาที่ต่อเนื่อง จะพบว่าสามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลาย และใช้ต้นทุนที่ไม่แพงมากเท่าไร แค่เพียงคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องหรือแทบเล็ท ที่วาดรูปได้ 1 อัน เมาส์ปากกา หรืออุปกรณ์การวาดด้วยมือ เท่านี้ก็จะทำให้คุณสร้างรายได้ที่เกิดจากการวาดได้แล้ว คุณอาจจะสร้างเพจขึ้นมาเพจนึงเสร็จแล้ววาดรูปอย่างต่อเนื่องเป็นคอนเทนต์ แล้วเก็บค่าโฆษณาจากสปอนเซอร์ หรือสร้างสติ๊กเกอร์ไลน์ขึ้นมาเพื่อสร้างรายได้อีกทางก็ได้

5.งานวาด และงานออกแบบ เพิ่มมูลค่าของงานได้ | Add Value

มาเริ่มต้นกันด้วยงานทั่วไป ที่ไม่ได้มีการให้คุณค่าไปมากกว่า การใช้งานตามปกติที่มันเป็น สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีความพิเศษ แต่เมื่อเราใส่คุณค่าทางงานออกแบบเข้าไป เพื่อเร่งการใช้ประโยชน์ พัฒนาการใช้งาน กระตุ้นความรู้สึกทำให้คนอยากใช้งาน และครอบครอง

งานออกแบบได้เติมคุณค่า ให้กับผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้น หากตีราคาเป็นราคาขาย ก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากกว่า ตัวงานแรกที่ไม่ได้มีความน่าสนใจ หรือมีความพิเศษแต่อย่างใด การใช้ Design Process ในการขับเคลื่อน ผลิต และพัฒนางาน ช่วยทำให้มูลค่าพุ่งสูงขึ้นได้

นอกจากการใช้การออกแบบแล้ว เรายังสามารถเพิ่มคุณค่างานได้อีกระดับขั้น คือ การใช้พลังทางงานศิลปะ หรือ งานวาด (illustration) ใส่เข้าไป

งานดีไซน์ที่ไม่มีงานวาดประกอบ อาจจะได้อีกราคาหนึ่งที่อาจจะสูงแล้ว แต่งานดีไซน์ที่มีงานวาดประกอบด้วย คุณอาจจะเพิ่มมูลค่าของสินค้า ให้ดูดีมีราคาได้อีก step หนึ่ง ทำให้คนซื้อสินค้าของคุณ หรือมาเยี่ยมชมเพจของคุณมากขึ้น เพราะว่ามันมีรูปวาด มีอะไรให้เขาดู และค้นหามากกว่าเนื้อหาที่เป็นบทความ

การผสานสองสิ่งเข้าด้วยกันอย่างลงตัวและเหมาะสมตามโอกาส จะทำให้การเพิ่มมูลค่าเร่งได้ถึงขั้นสุด

6.งานวาด งานออกแบบ สามารถใช้ประยุกต์ได้กับทุกวงการ | For All Industry

ไม่ว่าคุณจะอยู่วงการไหนก็ตาม ถ้าคุณทำงานวาดแล้ว มันสามารถเอาไปประยุกต์ได้กับทุกวงการที่คุณอยู่ ไม่ว่าคุณจะเป็นหมอ ทนายความ หรือวิศวกร ถ้าคุณวาดรูปเป็น คุณสามารถเอาทักษะการวาดรูปนั้น ไปประยุกต์

งานออกแบบ ก็เช่นกัน เป็นส่วนที่เอาเข้าไปช่วยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือช่วยในการแก้ปัญหาในสายงานต่างๆ ด้วบกระบวนการความคิด ที่เอาไปผนวกรวมกับความรู้เฉพาะทางในสายนั้นๆ ทำให้งานออกแบบ เป็นงานที่ไปจับคู่ ประยุกต์ได้กับทุกวงการ

7. DESIGN THINKING ช่วยรวมพลังต่างศาสตร์ | Collective Expertise

การคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ช่วยในการรวมพลังต่างศาสตร์ กระบวนการคิดและทำงานออกแบบนั้นสามารถผสานรวบรวมความรู้เฉพาะทางหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ที่หลายคนอาจจะงงว่า จะรวมไปทำไม ความรู้แต่ละเรื่องทำไมต้องเอามาเกี่ยวกั

ในยุคสมัยนี้ การสร้างProduct หรืองานออกแบบขึ้นมา หากสร้างมาเพื่อมุมมองเดียว สร้างมาด้วยมุมมองเดียว ก็สามารถตอบปัญหาได้แค่ด้านเดียว แต่ไม่สามารถครอบคลุมได้ในวงกว้างหรือทุกสถานการณ์ และคำตอบที่ได้จากความรู้เดี่ยวๆอาจจะไม่ยั่งยืน (Sustainable) เมื่อเทียบกับการที่นำเอาความรู้และมุมมองที่เป็นจริงในด้านต่างๆ มาประกอบกัน ทำให้งานนั้นสามารถตอบโจทย์ให้โลกได้มากกว่า และควรค่าอยู่กับเราไปนานๆ อย่างยั่งยืน

ยกตัวอย่าง งานออกแบบที่พัฒนาสิ่งแวดล้อม นักออกแบบต้องการสร้างจานชนิดหนึ่งที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ด้วยตัวเอง แต่ไม่มีความรู้ในเรื่องอะไรนอกจาก เรื่องของความงาม และรูปแบบของชามที่สวยงาม น่าใช้ ในกรณีนี้นักออกแบบ ต้องรวมรวมความรู้ใหม่ๆจากสายงานที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาเป็นข้อมูลพื้นฐานในการออกแบบ เช่น เรื่องของ ต้นทุนการผลิต (ส่วนของเงิน), เทคโนโลยีการผลิต, วัสดุทางเลือกในตลาด, วิธีการย่อยสลายในธรรมชาติ(วิทยาศาสตร์), และแหล่งสวนไร่นา หรือหมู่บ้านในท้องที่ ที่จะเป็นแหล่ง Supply วัสดุที่เหมาะสม เป็นต้น นี่เป็นแค่เบื้องต้น แต่ตัวอย่างนี้ ชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่แค่เราออกแบบความงาม แต่เราทำหน้าที่ประสานความรู้ที่หลากหลายเข้าด้วยกัน จนมันออกมาเป็นชิ้นงานออกแบบสร้างสรรค์

8. DESIGN THINKING มีไว้แก้ปัญหา | Problem Solving

นักออกแบบ คือ นักแก้ปัญหาที่หาทางออกใหม่ๆที่สร้างสรรค์

นักออกแบบ มีหน้าที่รับมือกับปัญหา และความท้าทาย และหาทางออกที่สวยงาม แปลว่า ไม่ใช่แค่มันเพิ่มคุณค่าทางความงาม แต่คือการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆของผลิตภัณฑ์นั้นๆ และพัฒนามันให้ดียิ่งขึ้น

9. ได้มุมมองใหม่ต่อโลก | New Perspectives to the World

การทำงานออกแบบ ทำให้เราได้พบมุมมองใหม่ที่มีต่อโลก

การทำงานออกแบบ ไม่ใช่แค่งานที่เราลงแรงแล้วได้เงินตอบแทน แต่เป็นงานที่เราได้รับผลตอบแทนมากกว่านั้น นั่นคือ มุมมองใหม่ๆที่มีต่อสิ่งรอบตัว วิธีคิด และการให้ความเข้าใจกับสิ่งแวดล้อม เป็นผลประโยชน์ที่พ่วงมาจากการที่เรามีมุมมองนักออกแบบ ที่พอเราเป็นนักออกแบบ หรือเริ่มทำการออกแบบเป็นแล้ว ทุกสิ่งที่เราเห็นบนโลกจะเปลี่ยนไปจากเดิม เราจะมีมุมมองที่กว้างและเข้าอกเข้าใจมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการมองกราฟิกโปสเตอร์หนัง เก้าอี้ หรือ ผลิตภัณฑ์ ต่างๆ เราจะมีความเห็นและสามารถแยกแยะคุณภาพของมัน ในบางวันเราจะรู้สึกชื่นชมกับงานดีดีที่เราเห็น และสนุกกับการมองมัน และในบางวันพอเราเห็นงานที่ไม่ดี สิ่งที่เป็นข้อบกพร่อง สิ่งเหล่านั้นก็จะเป็นข้อสังเกตให้เราจดไว้ในใจว่า แบบนี้ไม่ดี และควรจะได้รับการแก้ปัญหาแบบนี้ๆ ที่ก็ทำให้เราได้ความคิดเชิงวิเคราะห์สะสมในคลังสมองเรา คุณจะไม่ได้แค่มองโลกแบบที่ชาวบ้านบอก แต่จะมองอย่างคนเห็นโอกาส

10. ได้พัฒนาสมอง | Brain Exercise

งานออกแบบที่ดีนั้น ไม่ใช่แค่ ความสวยงาม ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์ที่มาตัดสิน แต่ว่ามาจากกระบวนความคิด ที่กว่าเราจะสร้างงานออกมาได้หนึ่งงาน มันต้องผ่านขั้นตอนการคิด รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ ออกแบบ แก้แล้วแก้อีก จนมันพัฒนาและก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆของมันได้ งานออกแบบจึงเป็นงานที่ท้าทาย เราไม่เคยรู้ว่าตอนสุดท้ายงานเราจะออกมาหน้าตาอย่างไร แต่นั่นก็คือความตื่นเต้น ท้าทาย และคือปริศนาที่เราต้องแก้ให้ได้ทุกครั้ง

และเมื่อคิดเสร็จแล้ว ก็ต้องทำการสื่อสารความคิดให้คนอื่นเข้าใจอีก

จากที่เราต้องคิด สร้าง และสื่อสาร ทำให้เราต้องใช้สมองอย่างมาก ทั้งในส่วนด้านการวิเคราะห์ ไปจนถึงการที่คิดในเชิงศิลปะ และคิดถึงอารมณ์ของคนรับสาร หรือ ผู้ใช้งานออกแบบของเรา คือ เรียกได้ว่าเราได้บริหารสมองหลายส่วนทีเดียว

11 . เปลี่ยนโลก | Change the world

มีโอกาสในการสร้างความแตกต่าง และสิ่งใหม่ๆให้กับโลก

เราใช้ชีวิตทุกวัน ไขว่คว้าหาสิ่งที่ต้องการ บางทีก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตเยอะ แต่รู้ไหมว่าในอดีต ก่อนที่สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะถือกำเนิดขึ้น คนยุคนั้นเค้าใช้ชีวิตผ่านปัญหา และความไม่สะดวกยังไง แล้วอะไรทำให้เรามีสิ่งใหม่ๆ ที่อำนวยความสะดวกขึ้น? การสร้างสรรค์ คิดค้นทางออกในการแก้ปัญหาไง ที่ทำให้โลกเราวันนี้แตกต่างจากวันเก่า และปัจจุบัน โลกของเรายังมีสิ่งที่รอให้เราค้นพบ ที่จะเข้าไปสร้างความแตกต่าง พัฒนาให้ดีขึ้น

งานออกแบบ และงานประดิษฐ์คิดค้น มากมายหลายอย่างบนโลกเกิดขึ้น ต้องมีวันแรก แล้วเมื่อเรามีความรู้ความสามารถในการออกแบบ มันคือ โอกาส ที่เราจะได้สร้างความแตกต่าง สิ่งใหม่ที่จะเปลี่ยนโลกนี้ได้ ไม่มาก ก็น้อย มันคือพลัง แล้วคุณพร้อมจะลองใช้มันรึยัง?

สรุป

หวังว่า 11 ข้อนี้ จะช่วยจุดประกายพลังบางอย่างในตัวคุณ ให้ลุกมาลองฝึกคิด ฝึกวาด แล้วพัฒนาตัวเองในสายนี้กัน เพราะเชื่อเถอะว่า ทางมันไม่ตันง่ายๆ และงานกราฟิกและวาดภาพประกอบ จะช่วยให้คุณไม่ใช่แค่เอาตัวรอดในโลกยุคนี้ได้อย่างดีขึ้น

ถ้าอยากจะพัฒนา เติมเต็มความรู้ตั้งแต่พื้นฐานในด้านการออกแบบกราฟิก และวาดภาพประกอบที่มุ่งเน้นโฟกัสในส่วนที่สำคัญที่สุด เพื่อนำไปใช้ได้จริงในงานจริง คอร์ส “เรียนลัดตัดตอนครบวงจร Graphic & illust” จะเป็นคำตอบของคุณ ที่เพียง 10 สัปดาห์ของการเรียนการสอนออนไลน์ จะทำให้คุณมีความรู้เพื่อนำไปใช้ต่อ และเอาตัวรอดในด้านงานออกแบบ งานวาดได้อย่างสวยงาม สนใจสมัครคอร์สนี้ ไปดู รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย