“ไม่มีงานดีดีแบบเค้า” แล้ว.. พอร์ตโฟลิโอเรา จะเจ๋งได้ไหมเนี่ย?

จะสู้เค้าได้ไหม?

งานไม่ดีอ่ะ ไม่ได้หรอก!!

พอร์ตฟอลิโอห่วยอ่ะ…จบป่ะ?

ไม่มีแบบนี้ ไม่มีอย่างนั้น จะไปเทียบกับใครได้?

คำถามแบบนี้เกิดได้เสมอ ทั้งตอนที่เรียนอยู่ หรือทำงานแล้ว เรามักจะมีจังหวะ ที่เห็นความแตกต่างในตัวเรากับคนอื่น แล้วมันเริ่มท้อ

จอมเองก็เคยคิดเหมือนกันค่ะ แต่เพราะคิด ก็เลยคิดแล้วคิดอีก จนต้องทำอะไรสักอย่าง ลองทำแล้วทำอีก จนสุดท้ายหาทางออกและคำตอบได้ว่า…..

(ดูใน Video / อ่านบทความ ข้างล่างเลย)

 

 

Q : ไม่มีงานดีดีแบบเค้า แล้ว..พอร์ตโฟลิโอเรา จะเจ๋งได้ไหมเนี่ย?

A : ได้ ถ้าทำ 2 ข้อนี้

พอร์ตโฟลิโอ เคล็ดลับ เทคนิค เจ๋ง ไม่ห่วย

ข้อ 1.เปลี่ยนการเล็งจุดอ่อน ไปเป็นการสร้างจุดแข็ง

จริงๆต้องบอกว่า ประเด็นเรื่องนี้เนี่ยคือ เรามักจะเห็นสิ่งที่อยู่นอกตัวเรา ดีกว่าตัวเราเองค่ะถ้าเป็นคำพังเพยฝรั่ง เค้าก็จะเรียกว่า Other grasses is always greener คือ สนามหญ้าคนข้างบ้าน นี่มันเขียวกว่าบ้านเราเนอะ เอาจริงๆ เหมือนกัน แต่มองคนละมุม แสงตกกระทบต่างกัน คนข้างบ้านเค้าก็เห็นแบบนี้เหมือนกัน สนามบ้านเราสวยกว่าบ้านเค้าอีก

ทีนี้ ถ้ามามองในแง่ของการหางาน สถาปัตยกรรม ภูมิสถาปัตยกรรม

คนแรก อาจจะบอกว่าผมเป็นนักเรียน งานสร้างจริงไม่มีเลย แล้วอย่างนี้สมัครไป เค้าจะรับผมไหมครับคนต่อมาผมทำงานมานานแล้ว มีงานก่อสร้างเยอะ แต่ไม่ได้หมือหวาอะไร พวกกราฟฟิคก็ไม่ได้เปรี้ยวเท่ห์แบบน้องๆรุ่นใหม่ ส่งไปไม่เข้าตากรรมการ แพ้น้องแน่เลย

ทีนี้จะเห็นว่า สองคนนี้ไม่มีใครพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี แต่เห็นว่าตัวเองไม่มีอะไร สรุปแล้วเป็นปัญหาโลกแตกที่ เราก็บ่นว่า มีไม่เท่ากับเค้า บ่นไปเสียเวลาค่ะเอาใหม่…เอาเวลามาดูว่าเรามีอะไร

วิธีแก้ : ปรับ Approach

การเป็นนักเรียน ข้อดีเลยค่ะ งาน Experiment งานทดลองไอเดีย งานเป็นตัวของตัวเอง สไตล์ไม่โดนใครบงการ งานครีเอท กราฟฟิคสวย ไอเดียเป็นเลิศ

ขณะเดียวกันคนที่ทำงานมา ก็เก่งเรื่องการออกแบบงานให้ Practical ทำงานก่อสร้าง ดีเทลหน้างาน การประสานงานโครงการ กราฟฟิคทำได้ เข้าใจว่าจะทำให้งานออกแบบมันเกิดขึ้นจริง สร้างจริงได้ยังไง

คือเราต้องศึกษาข้อดีของเรา และดึงมันออกมา เน้นมันออกมาค่ะ ถ้าดูแล้วไม่มีอะไรดีเลย ก็เลือกมาสักอัน แล้ว Pimp it up คือ ผลักดันมันค่ะ

เราทุกคนมีจุดดี จุดเด่นของเราเอง จริงๆค่ะ แต่เพราะเรามองมันเท่ากันหมด ก็เลยไม่รู้จะเน้นอะไร ลองตั้งใจดู หรือ ว่าลองดูว่าที่ที่เราต้องการจะส่งพอร์ทไปสมัครงาน เค้าต้องการอะไร แล้วเราก็เลือกจุดนั้นมาเน้นค่ะ

การบ้าน!

ไปคิดดูว่า อะไรที่เรามี ที่เรากล้าบอกคนอื่น อะไรที่มั่นใจ (ถ้าไม่นับว่า เคยมีคนพูดจาบั่นทอนกำลังใจมา แล้วทำให้หมดความมั่นใจ) เช่น

  • สไตล์ (Style)
  • ความขยัน (High-Energy / Enthusiasm)
  • ไอเดีย (Creativity / idea)
  • ความแปลก (Unique)
  • ความเป็นไปได้จริง (Practicality)
  • ผู้เชี่ยวชาญด้าน…(Specialist)
  • ทำได้ทุกอย่าง (Generalist / Buffet / Swiss-Army knife)

นี่แค่ตัวอย่างนะคะ

เคล็ดไม่ลับ – ขาดสิ่งไหน สร้างสิ่งนั้น

โอเค เรารู้แล้วว่านี่คือจุดที่เราจะเน้น แต่ว่ามันยังดีไม่พอ ตอนทำรีบมาก งานไม่สวยเลย ทำไงดี ก็ทำเพิ่มค่ะ แก้กราฟฟิค ทำกราฟฟิคเพิ่ม ทำสิ่งที่ควรจะต้องทำ เพื่อให้มันออกมาดี ไม่ใช่ เพื่อให้เราเหนื่อยน้อย

พอร์ตโฟลิโอ เคล็ดลับ เทคนิค เจ๋ง ไม่ห่วย

ข้อ 2. เล่าเรื่องให้ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง

ถ้ามองในแง่ของการทำพอร์ตโฟลิโอ คนที่งานดี Topของชั้นเรียน ไม่ได้แปลว่าจะทำพอร์ตฟอลิโอออกมาดีที่สุด

ทำไม เพราะอะไร?

เพราะว่าพอร์ตโฟลิโอคือ การนำเสนอผลงาน เล่าเรื่องความสามารถเรา

แปลว่า วิธีการเล่าเรื่อง การนำเสนอมีผลประกอบไปกับคุณภาพงาน

สิ่งที่จะสร้างคุณภาพจึงขึ้นอยู่ที่ วิธีการเล่าเรื่อง การออกแบบจัดงานใส่พอร์ทด้วยค่ะ

นึกนะคะ สมมติเรามีงาน 5 งาน จริงๆสามารถรวมมาเป็นพอร์ตโฟลิโอได้กี่แบบ?

เอาจริงๆเลย คือนับไม่ถ้วนถูกไหมคะ? มันแล้วแต่จะจัดวาง และแบบนึงอาจจะดีกว่าอีกแบบนึง แต่ถ้าคนนั้นเค้าจบลงที่แบบแรกที่ไม่ได้เล่าเรื่องอะไรมากมายแค่เอางานมาเรียงมาใส่ เหมือนสาราณุกรม กับอีกคนที่ทำให้ดูน่าสนใจเหมือนแมกกาซีน ถามว่า “อันไหนน่าสนใจกว่ากัน?”

การนำเสนอ การเล่าเรื่องนี่มันครอบคลุมไปถึงการจัดหน้า จัดสตอรี่บอร์ด วางกราฟฟิค เรียงหัวข้อ หรือแม้แต่การใส่คำบรรยายในภาพ มันคือองค์ประกอบที่ช่วยในการเล่าเรื่อง

งานดีแต่ไม่สุด มาเน้นมันให้สุด ด้วยการเล่าเรื่องนี่แหละ!!

แต่ว่า..

ถ้ามีความคิดว่า..“อ้าว ฉันก็เป็นฉันแบบนี้ จะไปทำอย่างอื่นเพิ่ม..ก็ไม่ใช่เราสิ”

ถ้าพูดแบบนี้..คิดแบบนี้ งั้นขอถามว่า…

“ไม่คิดว่าตัวเองจะดีได้กว่าวันนี้เหรอ?”

“สงสัยป่ะ ว่าจะดีกว่านี้ได้ไง?”

Hey..You!! โลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Branding ..มันไม่ได้เอาไว้เปลี่ยน Product ฮะ มันเอาไว้เล่าเรื่อง Product เหมือนกันเลย..

นี่เรากำลังสร้าง Branding ของเราอยู่ ถ้ารู้ว่า Product ปรับอีกนิด ทำให้ขายได้ ..จะเอาป่ะ?

 

สรุป…

ดังนั้น ไม่ต้องเทียบกับใคร ดึงสิ่งที่เรามีออกมาใส่พอร์ตโฟลิโอเราให้ดีที่สุด ถ้าจะดูคนอื่นก็ดูเพื่อให้เรารู้ว่า เรายังดีได้กว่านี้อีก แต่อย่าน้อยใจ เสียเซลฟ์ว่า “เฮ้ย!!..เราสู้คนอื่นไม่ได้”

ถ้าเราสร้างงานดีมาแต่แรก มันทำให้เราเล่างานได้ง่าย และดึงเรื่องมาเล่าได้ง่ายขึ้นค่ะ อันนั้นก็ดีไป แต่ถ้าอยู่ในจุดที่มองย้อนกลับไปในงานที่ทำแล้วแก้อะไรไม่ได้.. ก็ต้องเล่นเรื่องการพัฒนาทาง 2 ข้อนี้หนักๆเลยค่ะ !

โอกาสเรายังมีเสมอ ขอแค่ไม่มองข้าม และอย่าล้มเลิก
เราต้องเน้นและสร้างจุดแข็ง ให้มันยิ่งแข็ง และใส่ใจในการนำเสนอเรื่องของเราให้ดีค่ะ

หวังว่าบทความ และ วีดีโอนี้ จะช่วยเป็นกำลังใจ และทำให้หลายๆคนบิงโก เห็นไอเดียใหม่ๆในการปรับแก้ นำเสนอ พอร์ตฟอลิโอของเรานะคะ

* สำหรับใครที่อยากได้คน มาช่วยดู ช่วยคอมเม้นท์ Portfolio อย่างละเอียด และอยากรู้ว่า วิธี ทำให้ Portfolio ของตัวเองเจ๋งขึ้นไปอีกขั้นต้องทำอย่างไร ตอนนี้ทาง DreamAction รีวิวให้ฟรี เดือนละ 1 คน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ คลิกเลย Portfolio Review