ถึงเวลาพัฒนาตัวเอง…แต่จะเริ่มยังไง?
นี่มันช่วงขาลง..ใช่มั๊ย? แล้วชั้นจะดึงตัวเองขึ้นมาได้ยังไง?
เราเริ่มรู้สึกว่าประสิทธิภาพเราลดลง รู้สึกทำอะไรได้ไม่ดีเท่าเดิม ทำยังไงดี?
หลายคนต้องเคยเจอสิ่งเหล่านี้..เหมือนกับที่จอมเคยเจอแต่เราจะผ่านเวลาเหล่านี้ไปได้ยังไง? เราห่วยอีกแล้วเหรอ ทำไมล่ะ?จากที่เจอมาหลายครั้ง…จอมพบว่า
จริงๆ ถ้ามันไม่ใช้เพราะแย่ลง ประสิทธิภาพลดลง มันอาจจะเป็นเพราะ..เราไม่ได้พัฒนาขึ้นมากกว่า
ความเก่ง ไม่ใช่สิ่งที่ Absolute
เก่งเมื่อวันก่อน อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาของวันนี้การพัฒนาตัวเองวันนี้ จึงเป็นการที่ทำให้ตัวเราในวันพรุ่งนี้ ดีกว่า เมื่อวาน และ ณปัจจุบัน
ถ้าเราหยุด มันจะมีจุดที่โลกมันcatch up ตามเราทัน เพราะเราหยุด มันยังวิ่งต่อ
การที่พยายามพัฒนาตัวเองเสมอ ไม่ชะล่าใจ ทำให้เราเอาตัวเองหนีจากสิ่งที่เหล่านี้นี่แหละ ที่มันจะตามเรามาทัน
วันนี้ จอมมีเทคนิค 5 ข้อ-5วัน ที่จะช่วยเริ่มต้น ติดเครื่องในการพัฒนาตัวเอง แนะนำ ขอให้ลองให้ทำมันวันละ 1 ข้อ ทุกวันติดต่อกัน 5 วัน 5 ข้อ สิ่งที่ควรทำ..ก็คือ
DAY 1.Critical review | วิจารณ์หนักๆ
เริ่มจากที่คันก่อน ถ้าเราบอกเราทำงานแย่ลง..ก็ต้องมานั่งคิดดูว่า
เราเคยทำอะไรได้ดี และวันนี้มันหายไป หรือมันไม่เคยเพิ่มขึ้นเลย? เหมือนตัวเราของดีลดลง?เรามีอะไรต้องพัฒนา?
บางทีคนเราคิดเองไม่ออกหมด ขอคำแนะนำจากคนอื่น เป็นเรื่องที่ดีนะคะ
แต่เวลาได้คำแนะนำ ไม่ได้บอกให้ เชื่อหมด ไม่ว่าจะใครพูดทั้งนั้น ไม่ว่าจะจอม หรือ ใครก็ตาม เราต้องมาคิดเองต่อด้วยค่ะ เพราะไม่มีใครเข้าใจส่วนความคิดเราดีเท่าเรา แต่คนอื่นเค้าก็เห็นแบบอื่นด้วย การได้คำแนะนำจากคนอื่น ทำให้เรามองภาพได้กว้างขึ้น
คำติเตียน อย่ามองมันเป็น ความผิดพลาดของชีวิต
มองมันว่า เราเจอสิ่งที่ทำให้เราเก่งขึ้นแล้ว ก้าวข้ามมันไป มันไม่สนุกหรอก นอกจากเราจะพยายามทำให้มันสนุก
หา Strengths / Weakness ว่าคืออะไร
มองหาว่าอะไรคือ สิ่งที่ขัดขวางเรา (Threats) และ อะไรที่เรามีโอกาสทำให้ดีกว่านี้ (Opportunities)เนี่ย เอากระดาษมากาง เขียน SWOT เล่นๆ กับตัวเอง นั่งคุยกับตัวเองดู เรื่อง SWOT (มี template ในชุดคิท หางานนะคะ เอาไปใช้ได้เหมือนกัน)
เลือกใส่ใจคนที่หวังดีกับเรา คนติหวังดีก็มี ต้องเลือกนะ เลือกฟัง และอย่าฟังคนอื่นจนลืมฟังเสียงตัวเอง
Day 1 Questions: เรามีข้อดี ข้อเสีย ยังไงนะ? เอาตรงๆ?!
DAY 2.Change Perspectives & Standard | ปรับระดับ เป้าหมาย ทิศทางใหม่
มองตัวอย่างให้ไกลไปจากคนข้างๆ คนรอบตัว บางทีเรามองคนใกล้ตัวเรา เอาตัวเราไปเทียบกับเค้า แล้วมันไม่ช่วยอะไร แถมพอใกล้ๆกัน สกิลก็พอพอกัน พยายามจะวิ่งให้ทันเค้า เหมือนนั่งเล่นเกมส์กันเปล่า..
มองให้ไกลว่านั้น.. ถ้าจะ Up level เอาที่ไกลๆเลย
หาตัวอย่างงานดีดี จากต่างประเทศ ศึกษา ที่มาที่ไป ความคิด ไม่รู้หรอกว่าต้องหาแค่ไหน แต่หาจนกว่าจะเจออะไรที่ bingo หรือ ตอบคำถามที่เราอยากจะได้ บางทีนะแค่ประโยคเดียวที่ inspire ต้องไปหาหนังสือ หาวีดีโอ อะไรตั้งมากมายมาดู
ที่บอกให้ปรับแสตนดาร์ด คือ มองออกไปให้ไกลกว่าระดับรอบตัวเรา ถ้าเรามองเพื่อนๆ จอมว่ามันไม่ Work เลย ด้วย 2 ข้อใหญ่ๆ
- ตามเพื่อน..เราอาจจะปรับประมาณในเทรน หรือขอบเขตที่เราเห็น สุดท้าย มันก็แค่นั้น ทั้งที่โลกนี้กว้างจะตาย มีคนให้เราตามอีกเยอะ
- ตาม..คนใกล้ตัว เหมือนตาม”เป้าบิน” (เคยไปยิงเป้าบินกันไหมคะ?) ไม่ใช่เป้านิ่ง เราคอยตามเค้าไม่เหนื่อยเหรอ? พอเพื่อน Slow เราก็ผ่อน พอเอ้าเร่ง เราก็เร่งตาม… ใครคุมเกมส์? เริ่มเห็นภาพยัง? โถ…ยากกว่ายิงเป้านิ่งอีก แถมสุดท้ายผลที่ออกมาก็ได้แค่เท่าที่คนใกล้ตัวแสดงตัวอย่างแล้วเราไปตามเค้า เรามานั่งนอย เสียselfอีก ทำไมต้องตามเค้าวะ..แต่ก็ไปตามเค้าอยู่ดี แทนที่จะเอาเวลาไปโฟกัสคนอื่น เอาตาไปมองที่ที่ไกลกว่า เป้านิ่งๆไกล แล้วไปให้ถึง…. สร้างสรรค์ คุ้มเหนื่อยกว่าเยอะ
เลือกเป้าหมาย set ไว้ แล้วไปตามนั้น ใน Pace ของเรา อย่าเอาไปเทียบกับใคร มุ่งไปตรงที่เราอยากไป ไปให้ถึง แต่อย่าเอาสิ่งระหว่างทางมาdistract ให้เราparanoid
ถ้าเรียนอยู่ อย่าคิดแค่ว่าอยากทำงานให้เกรดออกมาดี แต่อยากให้มองว่า เราอยากสร้างงานที่ดีออก เป็นเป้าหมาย และมองงานตรงหน้าเป็น Exercise ให้เราศึกษา ให้ดึงข้อดีใหม่ๆออกมา ท้าทายตัวเอง และ พยายามเอาคุณภาพที่ถ้ามองจากงานจริง หรืองานต่างประเทศ มันได้standardแบบนั้น
ถ้าทำ portfolio ขอให้ทำแล้วเหมือนเอามาวางขาย แล้วคนอยากซื้อ เพราะมันสวย ประทับใจ เราต้องตั้งเป้า แต่ตั้งที่สิ่งที่เราคุมได้ เช่น งานดี เรียนรู้อะไรเพิ่ม
Day 2 Questions: ลองปรับความคิด… แล้วมองเห็นอะไร?!
DAY 3.Research + get inspired | หาแรงบันดาลใจ ข้อมูลใหม่ๆ เปิดโลก
อย่างที่บอก ต้องไปมองที่ไกลไกล หาข้อมูลใหม่ๆ ด้วยจะช่วยเปิดตา บางทีเพราะองค์ความรู้ที่เรามี มันถึงจุดที่ตัน เดินชนไปก็ตัน บางทีต้องเปลี่ยนมุมมอง เอาสิ่งใหม่ๆเข้ามา บางทีเราเดินไปหาสิ่งใหม่ อาจจะได้กุญแจมาไขข้อข้องใจ และได้ไอเดียใหม่ๆในการทำงานนั้นๆก็ได้ค่ะ
จอมมีรุ่นพี่คนนึง ชื่อ พี่เต๊นท์ พี่เค้าเนี่ย เป็นนักออกแบบ เป็นสถาปนิก ตอนที่พี่เค้าไปเรียนโทออกแบบที่ญี่ปุ่น ที่เกียวโต โรงเรียนเค้าจะจับนักเรียนที่เก่งคนละสายมาทำงานด้วยกัน เพื่อทำโปรเจคเดียว แปลว่าแต่ละคนมี expert คนละด้าน เพราะ..งานที่ดีที่สุด ไม่ได้แปลว่าจะสร้างมาจากการแก้ปัญหาด้วยความรู้ทางสายเดียว บางทีมีต้องมีการผสมผสาน มันไม่มีกรอบของคำว่าสร้างสรรค์ มันอาจจะต้องใช้ความรู้หลายด้านมาผสมผสานกัน
จอมว่า มันใช่เลยนะ ทำไม เรากล้าดียังไง ที่จะคิดว่า แค่ศาสตร์ของเราคนเดียว ความรู้เท่าที่มี จะสร้างงานที่ดีที่สุดได้ พอเรามองกว้างกว่าเดิม ทางเลือกเราเพิ่มขึ้นแล้ว แล้วสิ่งเหล่านี้แหละ ทำให้นวัตกรรมใหม่ๆ มันเกิดขึ้นมา
สิ่งใหม่ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นได้จากการตามรอยเท้าและทางเดินเดิมๆ เริ่มจากการเปลี่ยนมุมมอง คิดค้นอะไรใหม่ๆ ออกนอกกรอบ หาข้อมูลในโลกส่วนที่เรายังไม่รู้จักบ้าง
Day 3 Questions: วันนี้เราออกนอกกรอบ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หาทางออกใหม่ ที่มันพาเราไปไกลกว่าจุดเดิมรึยัง?!
DAY 4.Confidence
เชื่อในตัวเอง แต่อย่าเชื่อว่า วันนี้เราทำได้ดีที่สุดที่ชีวิตเราทำได้แล้ว ต้องเชื่อว่า เราทำได้มากกว่านี้อีกค่ะ แต่เราอาจจะต้องปรับวิธีทำ และมันคงไม่ง่าย ทำใจ เตรียมใจ ให้รับกับมันได้ค่ะ
ไม่มีใครให้กำลังใจเราได้ดีเท่ากับเราเอง แต่ในเวลาเดียวกัน ก็ไม่มีใครทำร้ายตัวเองโดยการ เข้าข้างตัวเอง สปอยล์ หลอกตัวเอง ได้ดีเท่าตัวเราเช่นกัน ดังนั้น เราต้องเชื่อในตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง และก็เตือนตัวเอง ตามเวลาที่เหมาะสม
เชื่อในตัวเราค่ะ ถ้าวันนี้เราดีไม่มาก ไม่ได้แปลว่าเราไม่มีดี เรามีแต่ต้องดึงมันออกมา นั่งรอมันไม่ออกมากเองหรอก
Day 4 Questions: เรา..เชื่อในตัวเองไหม?!
DAY 5 + .Do it, Deal with it | ลงมือทำ และ เพียรพยายามค่ะ
วันที่ 5 คือ ลงมือ ทำ ทำไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่วันนี้ แต่พยายามทำให้ได้ตามเป้าที่เราวาง ตั้งใจไว้ ก็บอกแล้ว ว่ามันคือ วิธี ให้เราได้เริ่มออกตัว ติดเครื่องพัฒนาตัวเอง ก็…ลุย !!!
ปรับทัศนคติและมุมมอง ช่วยให้เราอยู่กับสิ่งที่ดี ถูกที่ถูกทาง ใช้พลังงานให้ดี
เราวางแผนคิดมาดี แต่จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเราไม่ลงมือทำ ไม่พยายาม เราค่อยๆทำไปทีละขั้นๆ ช้าก็ได้ แต่อย่าหยุดค่ะ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การลงมือทำค่ะ มันไม่ง่าย ต้องอาศัยความเพียร ความพยายาม และส่วนมากความเพียรมันจะเกิดหนักมาก ตอนที่ปัญหามันเข้ามา ทำให้เราแทบจะทำงานไม่ได้ค่ะ นั่นแหละ ยิ่งต้องใช้ความเพียรพยายามค่ะ
เวลาคนเราต้องสู้กับอะไรสักอย่าง มันเหนื่อยค่ะ จอมเข้าใจ แต่มันเป็นแบบนั้นแหละขอเป็นกำลังใจให้ ให้ผ่านมันไปได้ ด้วยแรงพยายามของคุณ
Day 5 Questions: วันนี้..ลงมือทำรึยัง?!
วันนี้..ต้องเริ่มแล้ว…!!!
ฝากไว้…
เชื่อจอม พอคุณผ่านมันไป คุณจะเก่งกว่าเมื่อวาน คุณจะได้เรียนรู้อะไรที่เมื่อวันก่อนคุณไม่เคยรู้ และคุณยังก้าวข้ามมันไปไม่ได้
และที่แน่แน่คุณจะภูมิใจในตัวเอง ว่าคุณเคยลุกขึ้นมาสู้ และผ่านมันมาได้แล้ว ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ! สู้ๆ!!
แค่ 5 วัน แล้วติดเครื่อง พร้อมลุย!!
หากสนใจในเรื่อง.. ทำไงทำให้ทำงานไว มีประสิทธิภาพมากขึ้น? จอมจะเขียนรวบวิธีเจ๋งๆไว้ในบทความต่อไป..เร็วๆนี้นะคะ