หมดใจกับสายที่ทำ เดี๋ยวๆๆๆๆเดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะผันตัวเอง เบนเข็มเปลี่ยนสาย จะทำทั้งทีตั้งหลักให้ดี อย่าหลับหูหลับตาวิ่งไป มาวางแผนเตรียมตัวเตรียมใจ เตรียมข้อมูลก่อนจะไปให้ดีกันก่อน!!
โดยเริ่มต้นจาก 10 ขั้นตอนนี้ จะทำให้การข้ามสายมันเป๊ะไม่แป้กมาเริ่มลุยกันเลย!
1. Know “Now” | รู้จักสภาวะปัจจุบัน ที่มาที่ไปให้ดี
ตรงนี้ไม่ดียังไง ดียังไง? ทำไมจะย้ายค่าย? ไม่พอใจอะไรในสายงานปัจจุบัน ? ลองบอกข้อดีข้อเสียของมันสำหรับตัวเราดู ว่าทำไมทำให้เราไม่อยากทำงานสายนี้ต่อ
เพราะบางทีเรื่องราวที่สะสม ประกอบกับอารมณ์ ไปจนถึงกระแสมันทำให้เราไม่พอใจกับที่ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน ถ้าเราไม่ชอบสายนี้จริงๆ ก็ไม่เป็นไร ก็ทำความเข้าใจก่อนจะก้าวต่อไป มาวิเคราะห์ตัวเองและสถานการณ์ให้ดีอย่างใจเป็นกลางที่สุด เพราะมันจะมีประโยชน์ต่อการเอาไปเลือกเป้าหมายต่อไป ให้ไม่เจอเรื่องไม่ดีแบบเดิม แต่คิดให้ดีว่าจริงๆแล้วไปที่ใหม่ ก็จะเจอปัญหาเดิมอยู่ดีรึเปล่า แล้วอะไรที่เปลี่ยนไป มันใช่สิ่งที่เรามองหาจริงไหม? หรือแค่เราจะเปลี่ยนที่และวิธีทุกข์?ที่บอกไม่ได้จะตัดกำลังใจนะคะ แต่อยากให้มองโลกตามจริง เพราะยังไงชีวิตเราหนีปัญหาไม่พ้น ถ้าจังหวะนี้คือจังหวะตั้งหลัก แปลว่าเราควรจะมาประเมินสิ่งที่ผ่านมาใหัดีดี เพื่อประโยชน์อันสูงสุดในก้าวต่อไป แค่นั้นเอง
2.Know Your Strengths + Weakness | เรามีอะไร ขาดอะไร เอาอะไรไปใช้ได้บ้าง
What you have and lack?
ก่อนจะหันหน้าหนี เริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งของเก่าที่เราทำมาไปซะหมด ลองทำความรู้จักตัวเองให้ชัดเจน สำรวจุดอ่อนจุดแข็งของเราดีดี เพราะไม่ว่าเราจะไปทางไหนต่อ ตัวเรานี่แหละเป็นต้นทุนชั้นเยี่ยมที่สุดที่จะพาไปเราเดินต่อ
การที่รู้ว่าเราทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้ ทำไรไม่ดีไม่เก่ง จะช่วยเราตอบโจทย์และวางแผนต่อไปได้ด้วย ว่าเราจะไปทางไหนดี หรือจะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีให้ได้มากที่สุดยังไง อีกทั้งถ้าเรารู้ว่าเราด้อย หรือขาดทักษะตัวไหนเราก็จะได้เตรียมไปฝึกฝน ยิ่งเราขาดทักษะ การวางแผนเพื่อพัฒนาส่วนนั้นสำคัญมาก
และอีกสิ่งที่จอมอยากจะฝากไว้ในขั้นนี้ คือ อย่าลืมสิ่งดั้งเดิมที่เราเคยมี ยิ่งเราไปสายงานใหม่ยิ่งอาจจะต้องใช้นะ เพราะบางทีมันอาจจะสร้างจุดแข็งให้เราได้มากกว่าที่คิดค่ะ ถ้าเราไปเริ่มจาก 0 แบบไม่มีอะไรเลยก็ได้ ก็แข่งกับคนอื่นในรูปแบบที่เราอาจจะเสียเปรียบอยู่แล้ว แต่ถ้าเรามีทุนบางอย่างที่ทำให้เราพิเศษกว่าคนอื่น บางทีเราอาจจะไม่ได้ 0 แต่แรกเสมอไป ใส่ใจกับสิ่งที่เรามีให้ดีดีค่ะ
3.Study potential Professions | มีทางเลือกกว้างๆอะไรในตลาดบ้าง
เมื่อเรารู้ว่าเราสนใจอะไร อยากไปทางสายที่มีองค์ประกอบ หรือแนวประมาณไหน ทีนี้ลองค้นหาทางเลือกหลายๆแบบ โดยใช้วิธีระดมความคิด แบบไม่ต้องเลือกอันไหนก่อน แค่หาไอเดียคร่าวๆ แล้วมองภาพรวมของอาชีพและทางเหล่านั้น หลังจากนั้นลองแบ่งกลุ่มชนิดของงานเหล่านั้นไว้ตามคุณสมบัติต่างๆ เช่น ระดับของควาามถนัดมากน้อย หรือ ระดับของความสนใจ
4.Industry study (Tendency & Detail) | ศึกษาแนวโน้มของวงการ
Does it seems bright and right? เลือกกลุ่มอาชีพจำนวนหนึ่งที่น่าสนใจมาศึกษาแบบกว้างๆไปจนถึงลงรายละเอียด ดูว่าเค้ามีแนวโน้มจะรุ่งหรือร่วงในอนาคต? อนาคตสายนี้ดีไหม? เค้าทำอะไรบ้าง?
จากที่เรามีตัวเลือก ลองมาประเมินว่า ถ้าให้เลือกแค่ 1-2 สายใกล้ๆเคียงกัน เราสนใจทางไหนมากที่สุด และทางไหนที่ทิศทางสดใสกว่า ในระยะยาว ลองศึกษาไปจนถึงเรื่องของโอกาสทาชธุรกิจ ภาวะขึ้นๆลงๆตามเศรษฐกิจ หรือ สิ่งที่จะมีผลต่อวิชาชีพนั้น เป็นต้น
5.Learn Industry Needs (What they want) | สายนี้เค้าต้องการคนแบบไหน ต้องมีมาตรฐานอย่างไร
เริ่มศึกษาลงลึกว่าในวงการนั้นๆให้มากขึ้น ตั้งแต่ เค้ามีลักษณะอย่างไร รูปแบบการทำงาน เค้ามองหาคนแบบไหน เค้าต้องการคนแบบไหน มาตรฐานอย่างไร เรามีอะไรใกล้หรือซ้อนทับกับคุณสมบัติเหล่านั้นบ้าง
ขั้นตอนนี้สำคัญมากที่จะชี้ให้เห็นช่องว่างหรือความแตกต่างของความสามารถที่เรามี เทียบกับสิ่งที่วิชาชีพนั้นๆต้องการ ที่เป็นข้อมูลที่ดีมากที่ทำให้เรารู้ว่าเราต้องพัฒนาอีกมากเท่าไหร่ ถึงจะไปถึงมาตรฐานของอาชีพนี้
แถมการสร้างพื้นฐานความเข้าใจ ความรู้ทั่วไปในสายอาชีพมันสำคัญมากมาก ที่จะทำให้คุณเอาตัวรอดในวิชาชีพนี้ได้ ดังนั้น ต้องให้เวลาตัวเองในการเรียนรู้วงการนี้ค่ะ
6. Test Run | ลองเอาตัวเองไปทดลอง อยู่ในสถานการณ์
Simulate the situation to confirm interest and knowledge หา และสร้างโอกาสในการทดสอบว่ามันจะใช่จริงไหม เช่นการไป Job shadow, Internship
ลองปรึกษาคนที่อยู่วงการนั้น หรือ ลองติดต่อขอไปฝึกงาน ดูงานในสายดังกล่าว ที่พูดเหมือนจะเป็นไปได้ยาก แต่ถ้าเราไม่เคยลองขอ เค้าก็ไม่มีทางให้เราอยู่แล้ว ถูกไหม? ลองสร้างและหาโอกาสให้เราได้ศึกษาอาชีพเหล่านั้นมากขึ้น ว่ามันเป็นแบบที่เราคิดจริงไหม
ขั้นตอนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันกับตัวเราว่ามันจะไปต่อได้ไหม่แต่ยังช่วยทำให้เราเห็นภาพชัดว่าเราต้องพัฒนาตัวเองอย่างไรต่อไป หากเราอยากจะมาทางสายนี้จริงๆ
7.Evaluate + counteract | ประเมิน และหาทางเผชิญหน้า
Where do you need to improve ?
จากขั้นตอนทั้งหมด สรุปผลการทดลอง และการศึกษาตัวเอง ว่าเราต้องพัฒนาอย่างน้อยแค่ไหน และระดับใดถึงจะมีโอกาสในการก้าวเข้ามาในสายวิชาชีพนี้ หากเราขาดอะไร เราจะไปหามาจากไหน ใช้อะไรบ้างในการไปหา และใช้เวลานานเท่าไหร่ ในแต่ละส่วนลองแยกแยะและใช้มันมาช่วยเราตัดสินใจ วางเกมของเราว่าเราจะเดินยังไงต่อไป
8. Equip the necessary skill | พัฒนาตัวเองเพื่อให้ได้มาตรฐาน
Improve yourself! Take classes or hone certain skill!
ลงมือพัฒนาตัวเอง สร้างโปรแกรมการพัฒนาตัวเองในจุดที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน และทำสม่ำเสมอ เช่น ถ้าเป็นนักออกแบบ อยากทำงานกับพวก technology ได้ เราอาจจะต้องหัดเขียนโปรแกรมให้เป็นเพื่อให้เรามีทักษะที่วงการ tech เค้าต้องการในคนคนเดียว
ส่วนนี้สำคัญที่สุด การมีแต่ใจอยากจะเบนเข็ม ไม่ช่วยให้ใครอยากรับเรา เราต้องลงทุน แสดงพลังในการเปลี่ยนแปลชตัวเอง จนมีต้นทุนพอในระดับที่บริษัทที่เรบอยากไปสมัครเค้าจะยอมรับเราได้
ต้องทำ!
9. Strategize and Position yourself | วางเกม วางจุดยืน
การเปลี่ยนสายไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าทักษะในสายใหม่ไม่ใช่สิ่งที่เราถนัดไปซะหมด แต่เราต้องเลือกเอาส่วนที่เราทำได้ดีมาช่วยผลักดัน และส่วนที่เป็นจุดที่เราไม่เก่ง หรือจุดอ่อนอย่าเอาไปเป็นจุดขายแบบชาวบ้านเค้า เพราะเราไม่สามารถbranding ตัวเราแบบคนอื่นได้
ลองสร้างจุดขาย จุดยืนแบบของเรา อะไรที่ยังทำไม่ได้ก็เริ่มทำในก้าวต่อไป
10. Apply for those job | เริ่มทำ สมัครงาน หรือเริ่มต้นสร้างงานนั้น (เช่น จะทำ Startup)
เมื่อเราเตรียมตัวพร้อมแล้ว ไม่ว่าจะมากจะน้อย เริ่มลองสมัครงาน! เริ่มทำอย่ารอให้ perfect ไปซะหมด เพราะเราจะไม่มีทาง Perfect ลองสมัครไปให้รู้ว่าเรายังต้องแก้อะไรไหม อย่างเวลาเราสมัครงานและสัมภาษณ์ครั้งแรก เราจะพบวัฒนธรรมของวงการที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ส่วนนี้ก็เป็นการเรียนรู้ที่จะช่วยให้เรามาเตรียมตัวให้เราส่งที่สอง ที่สาม ที่สี่ ให้แม่นยิ่งขึ้น
ถ้าจุดนี้ ลองสมัครไปแล้วไปอีกยังไม่ได้ ให้ย้อนกลับไปตอนข้อ 7-8 ประเมินตัวเองและวิธีการที่ใช้ใหม่ เราอาจจะต้องเปลี่ยนวิธีไหม
หรือเราใจแคบต่อโอกาสเราไปไหม ลองมองอะไรกว้างๆขึ้น Expand the choice and role in the profession, make a list ขยายทางเลือกจากเดิม เพื่อโอกาสที่มากขึ้น
พอพัฒนาตนเองดีระดับที่เราเริ่มมีความมั่นใจบ้าง ลองเริ่มเอาตัวเรา version ใหม่นี้ไปลองวางบนตัวเลือกต่างๆดู เช่น จากทางเลือกเดิมที่เคยเล็งไว้ มันจะมีทางเลือกอะไรเพิ่มเติมได้อีก แม้อาจจะไม่เป๊ะแบบตอนแรกที่คิด แต่แบบนี้ก็ดีนะ ลองขยายตัวเลือกของเรา
สรุป
ถ้าผ่านทั้ง 10 ข้อนี้ไปแล้ว มีแค่สองอย่างคือ คุณไม่เบนเข็มแล้ว ก็ปูทางก้าวเข้าสายอาชีพใหม่อย่างเต็มที่เท่าที่คุณจะทำได้ดีที่สุดแล้ว จากนี้คือการที่พัฒนาตัวเองให้พอดีกับสายงาน แต่ก็อย่าลืมพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ
ถ้ามันยากก็อย่าสงสัย หรือคลางแคลงใจว่ามันมาถูกทางจริงเหรอ เพราะถ้าเราจะเอาง่ายๆ เดินทางเดิมที่มีมันก็ต้องง่ายกว่าอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเลือกแล้ว ก็ต้องเต็มที่ และทุ่มเทให้สุดตัวค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ