6 สิ่งที่…ไม่อยากบอก เกี่ยวกับ “เงินเดือน” สถาปนิกที่อเมริกา

เคยได้ยินไหมว่า…”เรื่องเงินเดือน..เค้าไม่ถามกัน”

แต่จะพูดไป มันสำคัญอยู่ใช่ไหมล่ะ.. เพราะเราเรียนมา จะทำงานเราก็อยากจะได้ค่าตอบแทนที่เลี้ยงชีพได้

นี่แหละ…วันนี้เลยจะมาเผยให้หมดเปลือก 6 สิ่งที่คนในไม่อยากบอก เกี่ยวกับเงินเดือน/รายได้สถาปนิกที่อเมริกา..(แต่คนนอกอยากรู้)

ที่เชื่อว่า น่าจะเป็นประโยชน์ต่อน้องๆที่เพิ่งจบใหม่ กำลังเล็งอยากหางานต่างประเทศ และในอเมริกา หรืออยากสำรวจว่าทำงานประเทศนี้ เงินนั้นหน้าตาเป็นยังไง

ในบทความนี้จะมาตอบทั้งใน บทความและ VDO ตอนท้ายค่ะ แต่ในบทความจะมี Link ไปยังเว็บไซท์หาข้อมูลเพิ่มเติม และในVDO จะเล่าเรื่องจากประสบการณ์ของจอมเองด้วย ;D

เริ่มสงสัยแล้วล่ะสิ ว่ามีอะไรกันบ้าง ?

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

1. Visa กับ รายได้ขั้นต่ำในการจ้างงาน มีผลต่อการขอ Visa

อีกสิ่งที่ทำให้การหางานอเมริกายาก ไม่ใช่แค่เรื่องของการแข่งขันแต่ คือ Visa ที่ว่าจะขอก็ยากเย็น และไม่ใช่ว่าแค่เค้าอยากจะรับแล้วจ่ายเราเท่าไหร่ก็ได้ แต่ในแต่ละรัฐนั้นมีเงินเดือนขั้นต่ำสำหรับแรงงานที่จะต้องทำ H1B ให้อีกด้วย

อาจจะเป็นข้อดีที่ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะ “โดนกด” เพราะยังไงก็ไม่สามารถต่ำกว่าตามที่กฏหมายออกในปีนั้นๆได้ (ต้องไปเช็ครายปี และตามแต่รัฐ)

แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ว่าจ้างเค้าลังเลที่จะลงทุนกับ H1B

แต่หากเป็นเรื่องของการฝึกงาน อันนี้จะไม่มีเรื่องของขั้นต่ำ แปลว่าบริษัทจะไม่ต้องกังวลมากเรื่องค่าใช่จ่าย แต่ทีนี้เราจะได้มากน้อยก็อยู่ที่บริษัทแล้ว

ได้อย่าง เสียอย่าง ดีคนละอย่าง H1B (ทำงาน) และ J1/F1 (ฝึกงาน)

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

2.Cost of living ค่าครองชีพของแต่ละเมือง มีผลมาก..ต่อปริมาณเงินเดือน

เมืองเล็ก กับ เมืองใหญ่ การขอเงินเดือนอาจแตกต่างกันได้ถึง 10,000 เหรียญ ต่อปี อยู่ที่ว่าเมืองไหนกับเมืองไหน อาจจะดูตัวเลขใหญ่ แต่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้

เพราะเมือง และ ค่าครองชีพมีผลต่อเงินเดือน แต่ไม่ได้แปลว่า ได้เงินมากกว่าเยอะแบบเมืองใหญ่ๆจะพออยู่เสมอไป ถ้าเป็นเมืองใหญ่ สุดท้ายต้องมาดูว่า เมืองไหนที่จะไปทำงานอีก

ถ้าเมืองเล็ก ค่าครองชีพไม่สูง ได้เงินกลางๆ อาจจะทำให้สามารถมีเงินเหลือหลังจากค่ารายเดือน (ค่าบ้าน, ค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าInternet, ค่าโทรศัพท์, ค่ารถ, ค่าอาหาร, ค่าของใช้ในบ้าน ไปจนถึง ค่าจุกจิกรายเดือน) ที่มากกว่า หรือ พอพอกับการอยู่เมืองใหญ่ ที่การได้เงินจากออฟฟิสในเมืองใหญ่ อย่าง New York แต่พอหักค่ารายเดือนไป สุดท้ายก็อาจจะเกือบชนเดือนไม่มีเงินเก็บ

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิตของแต่ละคน ถ้าเอาแค่ตัวเอง ก็ไม่ต้องห่วง มีเงินเก็บได้ แต่ถ้ามีภาระหน้าที่ครอบครัวที่ต้องดูแล ถ้าส่งกลับไปไทยทุกเดือนเยอะๆ พอตัดไปตัดมา ก็ไม่มีเงินเก็บหรอก เดือนชนเดือน แปลว่า ก็ต้องดูให้ดีว่า เรามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

ไปดูในข้อ 5 เรื่องการดูว่าเงินเดือนแต่ละรัฐเป็นยังไง

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

3.Working hours จะอยู่ที่ไหน สถาปนิก ก็คือสถาปนิก

โดยปกติตามหลักการทำงาน Full-time คือ 40 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ คือ 8 ชั่วโมงต่อวัน และทำ 5 วัน จันทร์ ถึง ศุกร์

แต่ในความเป็นจริง งานสถาปัตย์..ที่ไหนก็คืองานสถาปัตย์

มันจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะด้วยธรรมชาติของโปรเจค มันต้องทำเกิน 40 อยู่แล้ว ด้วยสาเหตุที่ทุกคนรู้ว่าเพราะอะไร

แปลว่า การทำงานประจำ ทำล่วงเวลา ไม่ได้แปลว่าจะได้ OT แต่อย่างใด ถ้าใครบอก สถาปนิกทำงานหนักแล้วจะรวยก็บอกเค้าได้ว่า “ทำเท่าไหร่ จ่ายเท่าเดิม”ค่ะ

แต่ถ้าถามว่าทำไม ทำเกิน ก็ต้องบอกไปอยู่ดีว่า “เพื่อคุณภาพงาน” เพราะพวกเราทำงานสร้างสรรค์สุดท้ายการจะสร้างอะไรออกมาให้ดีที่สุด มันไม่จบอยู่ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน

แปลว่าทำงานล่วงเวลาเยอะๆ ไม่ได้แปลว่าจะได้เงินมากขึ้น อย่าคาดหวังในจุดนี้

แต่ในทางอ้อม ทำงานดี อาจจะมีผลต่อความก้าวหน้าในอาชีพ และได้โบนัสได้

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

4. POSITION MATTERS ตำแหน่งมีผลต่อเงินเดือน

ใครใครอาจจะคิดว่า เป้าหมายสูงสุดที่จะ..เข้ามาเป็น Full-time น่าจะได้เงินเดือนเยอะที่สุด และดูดีที่สุด

ในความจริง อาจจะใช่ ถ้าเป็น Mid-level Designer แต่ถ้ามาเป็น Entry-Level Designer แล้ว ในบางทีIntern หรือ เด็กฝึกงานได้เงินเยอะกว่าFull-time อีกด้วยความที่ ตามกฏหมาย เด็กฝึกงาน นั้นได้รับการจ้างเป็นราย “ชั่วโมง” ในขณะที่ คนทำงานเต็มเวลาหรือ Full-time อย่างที่บอกในข้อ 3 คือ ไม่มีโอที

และที่สำคัญ Interns เนี่ย ชั่วโมงที่เกินจาก 40 ชั่วโมงไป แต่ละชั่วโมงนั้นไม่ใช่ว่าได้ 100% เท่าเดิมนะ แต่ได้มากกว่านั้นอีก ประมาณ 1½ เท่าของเรทปกติที่ได้ต่อชั่วโมง

และถ้าอยากได้เงินเดือนมากสุดสุด ที่อาจจะไม่ใช่ตำแหน่งที่ Entry Level มาทำได้ นั่นคือ เข้ามาทำ Business Development คือ วันวันหางานเข้ามาในออฟฟิส น่ะแหละ อันนี้จะได้เงินเยอะกว่าสิ่งใด แต่แน่นอน ไม่ต้องคิดว่าจะได้ออกแบบ เขียนแบบ เยอะแยะ ส่วนมากจะไปทำเอกสาร คุยกับคน มากกว่าการทำงานออกแบบ ก็อยู่ที่ว่าอยากทำอะไร

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

5. แอบดูหน้าตาเงินเดือน/รายได้..ของสถาปนิกในอเมริกา ในตำแหน่งและประสบการณ์ต่างๆ

มาถึงข้อมูลที่ทุกคนรอคอย……

เงินเดือนสถาปนิก อเมริกา

จากข้อมูลที่ได้จาก Burear of Labor Statistics ของประเทศสหรัฐอเมริกา และ Design Intelligenceคือ..

ข้อมูลรายได้ต่อปี (Annual Salary)

สถาปัตยกรรม (Architecture)

  • (Average) สถาปนิกฝึกงาน – ปีที่ 1$ 39,610
  • (Average) สถาปนิกฝึกงาน – ปีที่ 2$45,093
  • (Average) สถาปนิกฝึกงาน – ปีที่ 3$49,300

สถาปัตยกรรมภายใน (Interior Design)

(Average) Entry Level in Interior Design$47,208

ภูมิสถาปัตยกรรม

(Average) Entry Level in Landscape Architecture$52,000

วิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Engineering)

$59,357

Partner Level Base Salary (คือ เป็นหุ้นส่วนของบริษัท)

$188,458

Managing Partner Base Salary คือเป็นทั้งหุ้นส่วน และ ผู้บริหาร

$212,240

นี่เป็นข้อมูลเฉลี่ยค่ะ ในความจริงก็จะมีการปรับไปตามแต่ละเมือง มากกว่าน้อยกว่านี้ ต้องลองเช็คตามแต่สถานที่เองต่อในเว็บไซท์

วิธีการค้นเงินเดือน และการหาข้อมูล

นี่คือเว็บที่ช่วยเราหาข้อมูล เงินเดือนในอเมริกา และไปจนถึง หางานค่ะ

https://www.glassdoor.com/Salaries/architect-salary-SRCH_KO0,9.htm

https://www.glassdoor.com/Salaries/landscape-architect-salary-SRCH_KO0,19.htm

http://info.aia.org/salary/

อันนี้เงินเดือน สถาปนิกhttp://www.payscale.com/research/US/Job=Architectural_Designer/Salary/dfccf913/Entry-Level

เครื่องคำนวณเงินเดือน : Salary calculator

https://www.asla.org/NewsReleaseDetails.aspx?id=30041

การค้นหาค่าครองชีพ Index

America: Cost of Living Index 2016

Cost of Living Map of North America

รายได้สถาปนิก เงินเดือนสถาปนิก ที่อเมริกา

6. มี Raise ขึ้นเงินเดือน และ Bonus หรือไม่?

ที่นี่มีการขึ้นเงินเดือนตามปกติ ถ้า..ไม่ได้อยู่ในสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ คือ จอมผ่านมาทั้งตอนที่ขึ้นเยอะ ขึ้นน้อย ไม่ขึ้น ไปจนลดคน.. ส่วนมากการขึ้นเงินเดือนจะเป็นไปตาม Performance กับ Profit ที่บริษัททำได้ประจำปี เทียบกับว่าเราได้สร้างผลงานดีดีให้บริษัทเยอะมากน้อยแค่ไหน แต่โดยปกติ ก็จะค่อยๆขึ้นทุกปี 2-5% แล้วแต่ที่ แล้วแต่จังหวะ

แต่ถ้าถามถึง Bonus มี…ถ้า Profit ดี แต่เช่นกัน..ถ้า Economic Recession ไม่มีค่ะ..

และอีกสิ่งหนึ่งที่เท่าที่เทียบกับที่ไทยดูแตกต่างมากคือ อย่างที่ไทยจะได้ชอบมาเป็น โบนัส 3 เดือน โบนัส 1 เดือน!!

บอกเลยว่า สิ่งเหล่านั้น..เรียกว่าหรู..

เพราะว่า ได้Bonus 1 เดือนนี้คือ หรูเทพที่สุด!! ที่นี่จะคิดจาก Profit รวมมากกว่าแล้วแบ่งไปยังแต่ละคน พอมาถึง ก็จะไม่ถึงระดับ 3 เดือนหรอกค่ะ แต่จะได้มาประมาณ 0.5-1 เดือน

ดังนั้น ก็จัดว่าได้มาพอหอมปากหอมคอ แต่ไม่ได้แปลว่าจะเยอะสุดสุด แต่แน่นอน..ดีกว่าไม่ได้ใช่ป่ะล่ะ!!!

และอีกอย่างที่มีผลต่อการขอเงินเดือนมากกว่าได้คือ… Licensure ค่ะ นั่นคือ ใบประกอบอาชีพ ทั้งสถาปนิก และ ภูมิสถาปนิก ใช้คนละใบ และสอบต่างกัน ถ้ามี ก็จะขอเงินเดือนได้มากขึ้น เพราะสามารถเซ็นแบบได้ในโครงการที่สร้างในรัฐที่เราได้ใบประกอบอาชีพนั้นค่ะ เช่น… เรามีใบจาก New York ไม่ได้แปลว่าเราไปเซ็นได้ทุกรัฐ แต่ว่าแต่ละรัฐจะต่างไป … ไม่ลงดีเทลแล้วกันค่ะ

 

นี่คือ 6 สิ่งที่ วันนี้คนวงใน..เอามาเล่าให้ฟัง… หวังว่าจะหายสงสัย หายคาใจ และเห็นภาพชัดขึ้นว่าที่นี่ใช่ที่ที่คุณอยากมารึเปล่า

ความสามารถในการยังชีพที่นี่ ข้อดีคือมันมีได้ แต่มันก็อยู่ที่การใช้เงิน

ถ้าเงินเป็นอีกปัจจัยในการเลือกสถานที่ทำงาน จริงๆ อเมริกาอาจจะเป็นอีกที่ที่ดี ถ้าเราสามารถบริหารการเงิน ได้ก็จะเก็บเงินได้ค่ะ การหาเงินที่นี่ และกลับไปใช้เมืองไทย ยิ่งดีไม่ใช่น้อย

แต่ก็อย่างที่เล่า มันมีทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัดเช่นกัน ลองไปค้นคว้าต่อกันดู ว่าที่ไหนที่เหมาะกับคุณ…

Reference info :

design intelligenceและ จากประสบการณ์ตรงค่ะ