อินเดีย ?! แค่ฟังชื่อก็เพลีย ต้องไปจริงๆหรอ? มา เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เรามี 5 เหตุผล ที่คุณควรแพคกระเป๋า…แล้วไปเที่ยวอินเดีย ค้นหาแรงบันดาลใจกัน!
สวัสดีทุกคน เราขอแนะนำตัวก่อนน้า เราชื่อจุงโกะ เป็นภูมิสถาปนิก ทำงานและใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ตั้งแต่เรียนจบ จนถึงตอนนี้ก็ขึ้นปีที่เจ็ดแล้วจ้า
ทีนี้เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศเล็กๆ เวลามีวันหยุดอะไรทีก็ไม่รู้จะไปไหน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มักจะต้องออกเดินทางอยู่เสมอ ทำไปทำมาเราก็กลายเป็นคนเสพติดการท่องเที่ยวไปซะแล้ว เรียกว่าอย่าให้ได้มีวันหยุด เป็นต้องจองตั๋ว ไปเป็นแก๊งบ้าง เป็นคู่บ้าง เป็นคี่ เป็นกขค.บ้าง หรือแม้แต่ไปคนเดียวเราก็ไม่หวั่น
สำหรับเราแล้วการเดินทางไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อน เราว่ามันยังช่วยเปิดโลกกว้าง พาเราออกไปเจอสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ ยิ่งใครที่อยู่ในสายงาน Designแบบเราเนี้ย เราว่าการไปเที่ยวเนี้ยช่วยมากๆเลย บ่อยครั้งที่เราได้ Idea จากการไปเที่ยว กลับมาปุ๊บ ทำงานไหลลื่นยิ่งกว่าตอนก่อนไปอีก
ซึ่งในวันนี้เราก็อยากจะมาชวนให้ทุกคนไปเที่ยวประเทศหนึ่ง เป็นประเทศที่เปลี่ยนความคิดเราอย่างสิ้นเชิง จากตอนแรกที่ไม่คิดจะไปในตอนแรก แต่พอไปแล้วกลับรู้สึกไม่พอ ต้องขอไปอีก ที่นั้นก็คือออออออ แต่นแต๊นนนนน 
อินเดียจ่ะนายจ๋าาาาาา (ส่ายคอเล็กน้อยแบบอินเดีย)
เดี๋ยวๆๆ ฟังเราก่อน อย่าเพิ่งมองบน อินเดียไม่ได้มีแต่ระบำแขก วิ่งหนีรอบต้นไม้ เป่าปี่เรียกงู มันให้อะไรมากกว่าที่คุณคิดเยอะรับรองว่าไปแล้ว กลับมาคุณจะมองอะไรๆเปลี่ยนไป ไม่มากก็น้อย
สำหรับเรานี่คือ 5 เหตุผลที่จะมาใช้ในการชวนทุกคนไปเที่ยวอินเดีย
1.Because Size matters
ขนาดนั้นสำคัญ!! หน่ะะะ…. อย่าคิดไปไกลสิ เราหมายถึงประเทศอินเดียมีพื้นที่ขนาดใหญ่มากเป็นอันดับ7ของโลก หรือเทียบได้กับ 6เท่าของประเทศไทย! OMG!! คิดดูสิว่าจะมีความหลากหลายมากขนาดไหน ทั้งภูมิประเทศ อากาศ ภาษาพูดกว่า 800ภาษา อาหาร วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรม เรียกได้ว่าถ้าส่งเพื่อนไปคนละเมืองแล้วให้กลับมาเล่าให้เราฟัง จะงงได้เลยว่าพวกแกไปประเทศเดียวกันมารึเปล่าวะ
ด้วยความใหญ่ขนาดนี้ เที่ยวเป็นเดือนๆก็ไม่ทั่ว มีทั้งธรรมชาติ ชนบท ย่านแออัด หรือเมืองโคตรเจริญก็มี ดังนั้นอย่าเพิ่งตั้งแง่ เปิดใจซักนิด อินเดียที่เธอเห็นในทีวีมันแค่เสี้ยวเดียวจ่ะนายจ๋าาา
ส่วนเมืองยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปก็คือ Delhi, Ladakh, Agra, Srinagar, Jaipur , Bangalore, Mumbai, Kolkata, Hyderabad , Jodhpur
Illustration Source: “map of India for Exhibitor magazine” by Martin Haake
ข้างบนนี่เป็นภาพที่ถ่ายจากประเทศอินเดียทั้งหมด ดูสิแกว่ามันหลากหลายขนาดไหน!
บางที่ห่างกันแค่1ชั่วโมงเครื่องบิน แต่บรรยากาศนี่คนละเรื่องเลย ซึ่งนี่ก็แค่เศษเสี้ยวของอินเดียเท่านั้นนะ จะให้เล่าหมดคงใช้เวลาเป็นวัน
2.Because Architecture Matters
อินเดียเป็นชนชาติที่เก่าแก่ที่สุดชาติหนึ่งของโลก เป็นต้นกำเนิด ศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรมต่างๆ ทำให้มีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ และควรค่าแก่การเดินทางไปให้เห็นด้วยตาซักครั้ง ดังตัวอย่างข้างล่างนี้
Taj Mahal, Agra
คงไม่มีใครไม่รู้จักอนุสรสถานแห่งความรักแห่งนี้ โดยที่นี่ถูกจัดให้เป็น1ใน7สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ สร้างขึ้นโดย King Shan Jahan เพื่อระลึกถึงพระนาง Mumtaz Mahal พระมเหสีอันเป็นที่รักที่เสียชีวิตจากการให้กำเนิดโอรสองค์ที่ 14 ใช้เวลาสร้างยาวนานมากกว่า20ปี จนแล้วเสร็จในปี 1648 ตั้งเด่นเป็นสง่าจนถึงทุกวันนี้
Chandigarh city by Le Corbusier
เป็นเมืองหลวงของ แคว้น Punjab and Harayana ถูกวางผังโดย Le Corbusier สถาปนิกผู้เป็นต้นแบบของสถาปัตยกรรมยุุค Modern เมื่อสมัยที่อินเดียได้รับอิสรภาพใหม่ๆ ในเมืองก็จะมีส่วนที่พักอาศัย ส่วนอาคารสำนักงาน ส่วนราชการ รวมไปถึงมหาวิทยาลัยด้วย โดย เมืองนี้มันดีมาก ถึงขนาดมีคนยกย่องกันว่า เป็นหนึ่งในเมืองที่สมบูรณ์แบบที่สุดของโลก
Bahai Temple, Delhi
เรียกอีกชื่อว่า Lotus Temple หรือว่า วัดดอกบัว ไม่ใช่เพราะมีสระบัวเยอะนะคุณ แต่เพราะตึกมันเป็นรูปดอกบัวต่างหาก แล้วดอกบัวเนี้ย ก็สร้างมาตั้งแต่ปี 1986 เป็นCladdingหินอ่อนทั้งหมด โอ้วแม่! คิดดูว่าเมื่อสมัยก่อนจะออกแบบตึกอะไรแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ความรู้ ความสามารถขนาดไหน 
Thiksey Monastery , Ladakh
ที่เห็นหน้าตาคล้ายๆ Potala Palace นี่เราไม่ได้ลงรูปผิดนะจ๊ะ แต่ที่มันคล้ายกันขนาดนี้ก็เพราะว่าตอนที่ชาว Tibet ถูกขับไล่ออกมาตั้งถื่นฐานที่อินเดียตอนเหนือ เค้าได้สร้างที่นี้ขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากที่บ้านเก่าเค้านั้นเอง
ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่าห๊ะ แค่นี้หรอ? ยังๆๆๆ มันยังมีอีกเยอะ ตัวเราก็ยังไปมาไม่ครบไม่ว่าจะเป็น Pink city อย่าง Jaipur , Chand Baori หรือ Stepwell ที่ถ่ายรูปสวยเวอร์ๆ หรือ Victoria Memoral ที่ Kolkata ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจอื่นๆซ่อนอยู่อีกเป็นร้อยแห่งรอให้พวกเราได้ไปค้นไปสำรวจอยู่
3.Because Design matters
การมาอินเดียทำให้สมองเราได้ทำงานตลอดเวลา นอกจากเรื่องกังวลว่าจะโดนพี่แขกหลอกตอนไหนแล้ว สมองเราก็ยังคิดไปด้วยว่า เราจะออกแบบปรับปรุงอะไรได้บ้าง ให้สถานที่ตรงนี้ จุดตรงนี้ดีขึ้น เพราะว่ามันจะมีจุดพังๆ หรือจุดที่ดีได้กว่านี้ได้เต็มไปหมด ถ้าใครเรียน Design มานะ รับรองจะนั่งบ่นตลอดทาง
4.Because user matters
เพราะอินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ2ของโลก user ที่นี่จึงหลากหลายมาก ทั้งด้านเชื้อชาติ ภาษาและวัฒนธรรม เราเคยไปทางตอนเหนือของอินเดีย คนที่นี้ถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่าเป็นคนอินเดีย เพราะเค้าจะดูจีนๆ ออกไปทางทิเบต แต่ถ้าลงไปทางใต้ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเค้าแตกต่างกันมากนะ
เราเคยทำงานออกแบบที่อินเดีย เอาไปให้ Director ที่เป็นคนอินเดียตรวจ นางก็บอกว่าแบบนี้ไม่เวิร์คนะ เค้าไม่ทำกัน เราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมก็ปกติดีนิ พอได้มาเหยียบจึงเข้าใจว่า อออออออ มันไม่เหมาะกับเค้าจริงๆนะแหละ ถ้าเราไม่เข้าใจเค้า เราก็ไม่มีทางออกแบบให้เค้าได้เลย
แต่เรื่อง User นี่จะให้มันส์ ต้องยกให้ Delhi เพราะมัน Unpredictable มากกกกกก (ก ไก่ล้านตัว) มาที่นี่รับรองจะมีการหงุดหงิด แบบโว๊ยยยย จะอะไร จะเบียด จะแย่ง จะเข้าสิงกันเลยมั๊ย เพราะ personal space เค้าเล็กกว่าเราเยอะ การเข้าแถวแบบท้องชนหลังนี่ต้องชิน ตื่นตาตื่นใจกับรถสามล้อที่ขนคนได้เท่ารถตู้ ถนนที่เป็นทั้งที่ทางสัญจร ที่นอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ร้านค้า ลานซักล้าง และอื่นๆสารพัด สารเพ เรียกได้ว่าฉีกตำราทิ้งไปได้เลย ต้องมาเรียนกันใหม่หมด เพราะสุดท้ายเราคิดว่าการออกแบบที่ดีคือการออกแบบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีที่สุด
5. To get out of comfort zone
มีเพื่อนเราเคยบอกว่า “ถ้าเธอไปอินเดียแล้ว ถ้าเธอไม่รักเธอก็จะเกลียดไปเลย” แต่สำหรับเรา เราก็ไม่ได้รัก และก็ไม่ได้เกลียดนะ แต่มันเป็นความประทับใจมากกว่า ว่ามันให้อะไรเรามาก ทำให้เราก้าวข้ามออกจาก comfort zone โดยสิ้นเชิง ทำให้เราเปิดใจยอมรับ อะไรหลายๆอย่าง ได้เห็นคุณค่าของสิ่งของและชีวิต ขอบคุณตัวเองที่มีโอกาสที่ดีกว่าคนหลายๆคนบนโลกนี่นัก และเมื่อเรามีโอกาสที่ดีกว่าแล้วก็ควรใช้มันให้ดีที่สุด
สุดท้ายนี้…
ก็หวังว่าประสบการณ์ที่เรานำมามาแบ่งบันนี้จะช่วยเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนได้ออกไปท่องเที่ยวมากขึ้น หรือใครที่เที่ยวประจำอยู่แล้วก็จะมีBucket list เพิ่มขึ้นอีกซักหนึ่ง หรือสองที่ แล้วหากมีโอกาสได้ไปเที่ยว เปิดหู เปิดตาแล้ว ก็อย่าลืมเปิดใจให้กว้างๆด้วย สิ่งที่ไม่เคยทำก็ลองทำ มองไปรอบๆแล้วลองสังเกตดูให้ดี คุณจะได้อะไรกลับไปมากมาย มากกว่าคำว่าพักผ่อนแน่นอน
ก่อนจากกันไป (ขอเราแอบบตั้งแผงก่อน นิดนึง ห้าๆ) หากใครที่กำลังหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือรู้สึกเหนื่อยล้า เพลียกับการเรียนและงานในoffice ก็โยนหนังสือ สมุด ปากกาทิ้งก่อน แล้วตามเราไปเที่ยวได้ที่ Facebook Im Out of Office และ WordPress
แล้วจะได้รู้ว่าโลกนี้มันสนุกขนาดไหน 🙂
ประวัติผู้เขียน
ทัฬห์ คงสืบ (จุงโกะ) จบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาภูมิสถาปัตยกรรม จุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย
ปัจจุบันประกอบอาชีพภูมิสถาปนิก อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ตำแหน่ง Associate ที่ DP Architects Pte Ltd รักการท่องเที่ยว รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ออกเดินทางไปในที่ใหม่ๆ เชื่อว่าการท่องเที่ยวไม่ได้เป็นแค่การพักผ่อน แต่เป็นการทำให้เราได้เห็นโลกกว้าง รับIdea ใหม่ๆ ทำให้เรากลับมาทำงานได้ดีขึ้นไปอีก